Blog : [Ecommerce Guide]

ขายของออนไลน์ให้ปัง อะไรควรทำ อะไรควรเลี่ยง

ขายของออนไลน์ก็เหมือนการเล่นหมากรุก คุณต้องตื่นตัวตลอดเวลา ต้องคิดเผื่อก้าวต่อไป และคิดว่าจะชนะเกมนี้ได้อย่างไร ดังนั้น ถ้าอยากให้ยอดขายดีขึ้น การทำความเข้าใจลูกค้า การแข่งขันในตลาด การจัดวางสินค้า และความคิดเห็นของลูกค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ

**สาระน่ารู้ - 86% ของผู้ขายบน Amazon มีกำไร!

ทั้งนี้ ผู้ขายมือใหม่ส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าต้องขายออนไลน์อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ และเมื่อไม่มีกลยุทธ์การขาย ก็อาจทำให้ธุรกิจออนไลน์เติบโตได้ยาก วันนี้ Amazon Global Selling Thailand เลยรวบรวมพฤติกรรมสุดฮิตของเหล่านักขายออนไลน์ ที่มีทั้งรุ่งและร่วงมาฝาก!

เรื่องนี้ ‘ทำแล้วร่วง’

1. ไม่สนใจ Feedback ลูกค้า

ถือเป็นจุดที่ผิดพลาดได้ง่ายและเห็นได้บ่อยที่สุดจากผู้ขาย เพราะเมื่อขายของไปแล้ว จะให้ย้อนกลับไปดูว่าลูกค้าคิดอย่างไรกับสินค้าก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ปัจจุบันนี้ลูกค้าตัดสินใจซื้อของโดยอาศัยรีวิวเป็นอย่างมาก หากคุณได้รับ Feedback ที่ไม่ดี ก็จะทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้างและทำให้ลูกค้าหันไปซื้อกับเจ้าอื่น ผู้ขายจึงต้องหมั่นเช็ครีวิวและคอยปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้นอยู่เสมอ

2. ไม่มีกลยุทธ์การตั้งราคา (Pricing Strategy)

สิ่งสำคัญสำหรับสินค้า คือ ราคาที่ใช่ ถ้าคุณเล็งไว้ว่าอยากให้ Amazon เป็นช่องทางการขายหลักในระยะยาว ราคาสินค้าที่คุณจะตั้งก็ควรมีความเสถียร เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า

แต่การตั้งราคาให้อิงกับคู่แข่งก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย ไม่ว่าจะลดราคาเพื่อให้สอดคล้องกับตลาดก็ดี หรือเพิ่มราคาเพื่อไม่ให้ขาดทุนก็ดี ทั้งสองอย่างนี้ต้องมีการปรับเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ผู้ขายจึงต้องมีกลยุทธ์การตั้งราคาเพื่อคงกำไรและลูกค้าไว้เสมอ ซึ่งผู้ขาย Amazon สามารถใช้เครื่องมือ Automated Pricing เพื่อสร้างกฎเกณฑ์และให้ระบบปรับราคาที่สอดคล้องกับตลาดได้โดยอัตโนมัติ

3. ลงเล่นในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

พยายามอย่าทำตามคนอื่นจนเกินไป การขายสินค้าที่ถึงจุดอิ่มตัวของตลาดอาจทำให้คุณไม่ได้ผลประโยชน์อะไรมากนัก และจะพาคุณไปสู่จุดที่ต้องลดราคาสินค้าเพื่อแข่งกับตลาด ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เรามุ่งหวัง เพราะเป้าหมายของเราคือการทำเงิน ไม่ใช่การผลาญเงิน ‘ทางที่คนอื่นไม่ค่อยเดิน’ จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่า และวิธีที่จะช่วยคุณสร้างกำไรได้ คือ การลองหาสินค้าที่ยังไม่ค่อยมีคนขายมากนัก และดึงจุดเด่นของมันออกมาให้ได้มากที่สุด
ขายของออนไลน์

เรื่องนี้ ‘ทำแล้วรุ่ง’

1. Optimize ชื่อสินค้าและรายละเอียด

ใน Amazon มีสินค้าวางขายอยู่มากกว่า 20 ล้านชิ้น ท่ามกลางผู้ขายมือเก๋ามากมายบนแพลตฟอร์ม การจะทำให้สินค้าของคุณโดดเด่นแซงทุกเจ้าได้ทันทีเลยก็คงแทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางซะทีเดียว ถ้าคุณรู้จักตั้งชื่อสินค้าด้วยคีย์เวิร์ดที่ใช่

ผู้ขายจำเป็นต้องเข้าใจว่าลูกค้าค้นหาสินค้าอย่างไร และใช้คำว่าอะไรบ้าง เช่น “รองเท้า Nike ผู้หญิง สีน้ำตาล” ชื่อสินค้าของคุณจึงควรมีทั้งชื่อแบรนด์ ประเภทสินค้า เลขรุ่น ไซส์ สี ฯลฯ เพื่อที่ลูกค้าจะได้รู้รายละเอียดได้อย่างแม่นยำ

อีกวิธีที่จะทำให้สินค้าของคุณถูกค้นพบได้ คือ การใส่รายละเอียดสินค้า ซึ่งควรใส่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ลูกค้าจะได้รู้ว่าสินค้าของคุณมีรายละเอียดที่เป็นประโยชน์ต่อพวกเขาจริง ๆ แต่ก็อย่าใส่ข้อมูลที่ไม่จำเป็นจนเยอะเกินไป เพราะจะทำให้ลูกค้าสับสนและอาจหันไปดูสินค้าที่คล้ายกันจากเจ้าอื่นแทน

2. แคตตาล็อกสินค้า

แคตตาล็อกเป็นเหมือนพนักงานขายที่คอยแสดงสินค้า บอกเล่าข้อมูลที่ลูกค้าอยากรู้ และนำเสนอภาพรวมทั้งหมดของสินค้า ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่มองหาสินค้าที่คล้ายคลึงกัน คุณจึงสามารถโปรโมทสินค้าไปพร้อม ๆ กับสร้างยอดขายด้วยได้

3. ใช้ FBA สำหรับโลจิสติกส์

Fulfillment by Amazon ถือหนึ่งในบริการที่ดีที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นขายออนไลน์ เพราะแค่มีสินค้าสุดเจ๋งที่พร้อมขายบน Ecommerce ส่วนที่เหลือเดี๋ยวเราช่วยจัดการ ตั้งแต่การรับสินค้าถึงที่ นำสินค้าไปเก็บไว้ที่ศูนย์ Fulfillment ส่งสินค้าให้ลูกค้า ไปจนถึงดูแลเรื่อง Customer Service ช่วยให้คุณได้มีเวลาไปโฟกัสกับการขยายธุรกิจมากขึ้น

4. มีกลยุทธ์การตลาด

ลองนึกภาพว่าเมื่อคุณเปิดร้านใหม่ หากนั่งอยู่เฉย ๆ ก็คงไม่มีลูกค้าวิ่งกรูกันเข้ามาซื้อของเป็นแน่ ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อเปิดร้านใหม่ ก็คือการโปรโมทร้าน การขายกับ Amazon ก็เช่นกัน เมื่อขายสินค้าแล้ว คุณต้องมีแผนการตลาดรองรับ ลูกค้ามักมองหาข้อเสนอหรือโปรโมชั่นช่วงเทศกาลหรือโอกาสพิเศษ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คุณต้องใช้ให้เกิดประโยชน์เต็มที่ หรือจะลองจ่ายเงินทำโฆษณา (Paid Ads) เพื่อให้คนเห็นสินค้าของคุณมากขึ้น โดยกำหนดจากคีย์เวิร์ด ความสนใจของลูกค้า หรือสินค้าที่มีความเกี่ยวข้องกันก็ได้

แนวทางเหล่านี้จะทำให้ประสบการณ์การขายของ Amazon ดียิ่งขึ้น บางข้ออาจดูไม่สำคัญ แต่ถ้าเผลอละเลยก็สามารถส่งผลกระทบต่อยอดขายได้อย่างใหญ่หลวง หากทำตามได้ทั้งหมด คุณก็จะมีโอกาสเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น เพราะท้ายที่สุดแล้ว ประเด็นสำคัญคือการทำให้สินค้าของคุณปรากฎอยู่บนแพลตฟอร์มให้ได้มากที่สุด และในเมื่อเรารู้วิธีการขายของออนไลน์และวิธีการสร้างยอดขายออนไลน์แล้ว ขั้นต่อไปก็มาเริ่มต้นขายกับ Amazon กันเลย!
© 2021, Amazon.com Services LLC.