คู่มือสำหรับสมัครบัญชีผู้ขาย
บน Amazon

ไม่ว่าคุณจะขายสินค้าออนไลน์อยู่แล้ว หรือเป็นมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นขายของออนไลน์ ข้อมูลต่อไปนี้จะช่วยให้คุณเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ และส่งออกสินค้า บน Amazon ได้อย่างราบรื่น
ค่าธรรมเนียมการขาย USD$1 ดอลล่าสหรัฐในช่วง 6 เดือนแรก
สำหรับการลงทะเบียน Professional Selling Plan เท่านั้น และต้องลงทะเบียนเสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนด
คือ ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน 2024 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก

ยินดีต้อนรับสู่ Amazon

ยินดีต้อนรับเข้าสู่การเป็นผู้ขายบน Amazon เว็บขายของออนไลน์ที่มีลูกค้าเข้าชมจากทั่วโลก และลูกค้าส่วนใหญ่มองหาแหล่งสินค้าที่หลากหลายและคุณภาพดี ดังนั้น ผู้ขายทุกคนจึงเป็นคนสำคัญสำหรับเรา ทาง Amazon ยินดีให้การสนับสนุนผู้ขายทุกท่าน ให้ท่านเข้าถึงบริการ กลยุทธ์การตลาด และเครื่องมือต่างๆ ที่จะช่วยให้การขายของออนไลน์ ต่างประเทศ บนเว็บไซต์ของเราเป็นไปอย่างราบรื่น
icon: megaphone with sound coming out
เข้าถึงลูกค้าทั่วโลก
ผู้ขายบน Amazon ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิต ผู้ส่งออกสินค้า เจ้าของแบรนด์ หรือตัวแทนจำหน่าย สามารถเข้าถึงเครือข่ายลูกค้าของ Amazon กว่า 300 ล้านคนทั่วโลก
icon: ascending line graph
ระบบจัดการสินค้า
Amazon มีกลยุทธ์การตลาด ซึ่งมีระบบจัดการสินค้าครบวงจร ตั้งแต่การสต็อคของ ไปจนถึงการส่งของถึงมือลูกค้าในต่างประเทศ
อ่านเพิ่มเติม
icon: circle with dollar sign in the middle, computer mouse pointer clicking on it
โปรแกรมเพิ่มยอดขาย
นอกเหนือจากกลยุทธ์การตลาดในการลงขายแล้ว Amazon ยังมีเครื่องมือและโปรแกรมต่างๆ ให้ผู้ขายได้เข้าร่วม เพื่อส่งเสริมการขายของออนไลน์ เช่น เครื่องมือการโฆษณา หรือการออกแบบหน้าร้าน

ขายของออนไลน์ทั่วโลก และ ส่งออกสินค้า ไปขายบนเว็บขายของอย่าง Amazon สามารถทำให้คุณเข้าถึงฐานลูกค้ากว่า 300ล้าน คน และด้วยกลยุทธ์การตลาดและเครื่องมือต่างๆนี้ ความสำเร็จในการขยายธุรกิจออนไลน์ของคุณอยู่ใกล้แค่เอื้อม!

ก่อนสมัครบัญชีผู้ขาย

ก่อนจะเริ่มต้นสมัครบัญชีผู้ขายและเริ่มธุรกิจออนไลน์ กับ Amazon เราขอแนะนำให้คุณเตรียมความพร้อมใน 3 หัวข้อหลัก นั่นคือ การศึกษาแผนการขาย การเลือกสินค้าที่จะนำมาขาย และการสำรวจโปรไฟล์
1. เลือกแผนการขายที่เหมาะสม
icon: megaphone with sound coming out
Professional Selling Account
แผนการขายสำหรับมืออาชีพ
• เรตพิเศษ USD$ ต่อเดือน ระยะเวลา 6 เดือน* ไม่ว่าจะขายสินค้าจำนวนเท่าใดก็ตาม
• เหมาะกับผู้ขายที่ต้องการส่งออกสินค้าไปขายมากกว่า 40 ชิ้นต่อเดือน
เหมาะกับผู้ขายที่ต้องการใช้เครื่องมือเพิ่มยอดขายจาก Amazon
*ค่าธรรมเนียมการขาย USD$1 ดอลล่าสหรัฐในช่วง 6 เดือนแรก
สำหรับการลงทะเบียน Professional Selling Plan เท่านั้น และต้องลงทะเบียนเสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนด คือ ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน 2024
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
icon: ascending line graph
Individual Selling Account
แผนการสำหรับบุคคลทั่วไป
• มีค่าธรรมเนียม $0.99 ต่อหนึ่งหน่วยสินค้าที่ขายออก
• เหมาะกับผู้ขายที่ต้องการส่งออกสินค้าไปขายน้อยกว่า 40 ชิ้นต่อเดือน






computer icon with Amazon Smile logo

เข้าถึง Tools มากมาย ด้วยแผนการขายแบบมืออาชีพ

แผนการขายแบบมืออาชีพช่วยให้ผู้ขายเข้าถึงเครื่องมือกระตุ้นยอดขาย กลยุทธุทธ์การตลาด และประโยชน์อื่น ๆ ที่มากกว่าแผนการขายแบบทั่วไป อาทิ การลงโฆษณา โปรโมชั่นต่างๆ รวมไปถึงการเข้าถึง Reports ที่จะช่วยให้ผู้ขายสามารถวิเคราะห์ยอดขายและพฤติกรรมของลูกค้าในธุรกิจออนไลน์ของคุณได้ดียิ่งขึ้น
2. เลือกสินค้าที่จะขายบน Amazon
ทาง Amazon เปิดให้ผู้ขายของออนไลน์ทุกรายสามารถลงขายสินค้าได้มากกว่า 30 หมวดหมู่ แต่สำหรับสินค้าบางหมวดหมู่จะต้องมีการขออนุมัติเอกสารสำคัญในการส่งออกสินค้าและสามารถลงขายได้หากผู้ขายสมัครบัญชีแผนการขายแบบมืออาชีพ (Professional Selling Plan) เพื่อความปลอดภัยในการบริโภคหรือในการใช้งานของลูกค้า
3. พิจารณาโปรไฟล์ผู้ขาย
เมื่อตัดสินใจเลือกขายสินค้าออนไลน์บน Amazon แล้ว ผู้ขายควรจะพิจารณาโปรไฟล์ของตนเองเพื่อที่จะวางกลยุทธ์การตลาดในการส่งออกสินค้าให้เหมาะสมมากที่สุด
ผู้ผลิต
มีโรงงานหรือกระบวนการผลิต และผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ตนเอง

เจ้าของแบรนด์
สั่งผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของตนเองเพื่อเสนอตัวเลือกที่ไม่ซ้ำใครให้กับลูกค้า
ตัวแทนจำหน่าย
ค้นหาสินค้ายอดนิยมที่มีขายในตลาดอยู่แล้ว และนำเสนอขายใน Amazon แม้จะไม่ได้เป็นผู้ผลิตหรือเจ้าของแบรนด์ของตนเอง
ผู้ขายสามารถเลือกโปรไฟล์ใดก็ได้ที่เหมาะกับธุรกิจออนไลน์และเป้าหมายในการขายสินค้า หากผู้ขายวางแผนที่จะขายสินค้าบน Amazon ในนามแบรนด์ของตนเอง ทางเรามีทรัพยากรและเครื่องมือมากมายที่จะอำนวยความสะดวกและเพิ่มกลยุทธ์การตลาดให้กับธุรกิจออนไลน์ และการส่งออกสินค้าของคุณ

เริ่มสมัครเป็นผู้ขาย

สมัครบัญชีผู้ขาย Amazon ได้ที่ Seller Central เว็บไซต์ที่ใช้จัดการบัญชีผู้ขาย คุณสามารถสร้างบัญชีด้วยอีเมลธุรกิจของคุณ และปฎิบัติตามขั้นตอนการสมัคร รวมทั้งเตรียมเอกสารยืนยันตัวตนทุกอย่างให้ครบถ้วน

วิดีโออธิบายขั้นตอนการสมัคร

หากผู้ขายติดปัญหาในขั้นตอนใด สามารถเข้าร่วมโปรแกรม JumpStart เพื่อให้ทีมงานจาก Amazon ช่วยให้การสมัครบัญชีขายของออนไลน์เป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น

เอกสารและข้อมูลสำหรับการสมัคร

1. อีเมล (Email Address)
ผู้ขายจะต้องเตรียมอีเมลที่เอาไว้ใช้สมัครบัญชีผู้ขาย เนื่องจากอีเมลเป็นข้อมูลที่ผู้ขายจะไม่สามารถทำการเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง ผู้ขายจึงควรใช้อีเมลที่ใช้ติดต่อได้
ผู้ขายจะต้องกรอกข้อมูลรูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ผู้ขายวางแผนที่จะขายใน Amazon ระหว่างแผนการขายแบบมืออาชีพ (Professional Selling) หรือแผนการขายแบบบุคคลทั่วไป (Individual Selling)
icon: megaphone with sound coming out
Company Business
การเปิดบัญชีในนามบริษัท (Company Business) ผู้ขายกรุณากรอกชื่อบริษัทเป็นภาษาอังกฤษ
icon: ascending line graph
Individual Business
การเปิดบัญชีในนามบุคคล (Individual Business) ผู้ขายกรุณากรอกชื่อและนามสกุลเป็น ภาษาอังกฤษ
3. ที่อยู่ (Address)
ผู้ขายจะต้องกรอกที่อยู่ของคุณเป็นภาษาอังกฤษ เนื่องจากทาง Amazon เคร่งครัดกับการตรวจสอบตัวตนในการสร้างบัญชีธุรกิจออนไลน์ของผู้ขาย ที่อยู่ภาษาอังกฤษของคุณจะต้องตรงกับ Bank Statement ที่ยื่นให้กับ Amazon เพื่อให้ขั้นตอนการยื่นเอกสารเป็นไปได้อย่างราบรื่น หากผู้ขายกรอกที่อยู่ที่ไม่ตรงกับ Bank Statement อาจส่งผลให้เอกสารของคุณไม่ผ่านการพิจารณาได้
4. บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต (Charge Method)
ข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตมีไว้สำหรับตัดค่าธรรมเนียมแผนการขายและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในการขายของออนไลน์บน Amazon ผู้ขายสามารถใช้บัตรเครดิต/เดบิตอะไรก็ได้ไม่เจาะจงว่าจะเป็นในนามของใคร ผู้ขายกรุณาเตรียมข้อมูลในบัตรเครดิต/เดบิตต่อไปนี้:

1. หมายเลขบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต
2. วันที่หมดอายุของบัตร
3. ชื่อและนามสกุลที่อยู่บนที่อยู่หน้าบัตรเป็นภาษาอังกฤษ
5. บัญชีรับเงิน (Deposit Method)
เนื่องจาก Amazon สามารถโอนเงินให้ธนาคารที่อยู่ใน สหรัฐอเมริกา (US) เท่านั้น หากผู้ขายไม่มีบัญชีของประเทศสหรัฐอเมริกา คุณจำเป็นต้องใช้บัญชีเสมือน (Virtual Account) ซึ่งเปรียบได้กับกระเป๋ารับเงินส่วนกลาง เพื่อใช้รับเงินจากยอดขายของท่านก่อนเปิดบัญชีผู้ขายของ Amazon ขณะนี้ โดยที่ผู้ขายมักจะใช้บริการบัญชีเสมือนเจ้าหลัก ๆ เช่น Payoneer:
6. ชื่อร้าน (Display Name)
ชื่อร้านค้าที่จะปรากฏบนหน้าเว็บ Amazon ต่อหน้าลูกค้า ผู้ขายสามารถตั้งชื่อร้านค้าของตนเองยังไงก็ได้ โดยไม่ต้องจดลิขสิทธิ์หรือยืนยันตัวตนของชื่อร้าน
7. เอกสารยืนยันตัวตน (Seller Identity Verification - SIV)
เนื่องจาก Amazon ต้องการตรวจสอบตัวตนบัญชีขายของผู้ขาย ดังนั้นผู้ขายจะต้องเตรียมเอกสารที่มืชื่อและที่อยู่ที่มีข้อมูลตรงกับรายละเอียดที่ผู้ขายได้กรอกไว้ตอนทำการเปิดบัญชีตามเอกสารด้านล่างนี้:
บัตรประชาชน (National ID Card): ชื่อบนบัตรประชาชนจะต้องตรงกับชื่อที่ใช้สมัครบัญชี (Legal Name) ผู้ขายจะต้องแสกนสำเนาบัตรประชาชนแบบเป็นสีทั้งหน้าและหลัง ให้อยู่ในคุณภาพที่ชัดเจนที่สุด ผู้ขายสามารถที่จะใช้สำเนาหนังสือเดินทางยืนยันตัวตนได้เช่นกัน หากผู้ขายเลือกที่จะส่งสำเนาหนังสือเดินทางในการยืนยันตัวตน โปรดตรวจสอบให้แน่ใจในหนังสือเดินทางมีลายเซ็นต์ของเจ้าของหนังสือเดินทาง
Bank Statement หรือ Credit/Debit Card Statement: ชื่อเจ้าของ Bank Statement หรือ Credit/Debit Card Statement จะต้องตรงกับ Legal Name และที่อยู่ในเอกสารจะต้องตรงกับ Business Address ใน Seller Central ที่ผู้ขายต้องการรายละเอียดของเอกสารที่มีเงื่อนไขดังนี้

1. ชื่อ นามสกุล และที่อยู่เป็นภาษาอังกฤษ
2. เอกสารจะต้องมีอายุไม่เกิน 90 วัน

การกรอกข้อมูล Tax และบัญชีรับเงิน

หลังจากกรอกข้อมูลการสมัครเสร็จสิ้นแล้ว ลำดับถัดมาคือการกรอกข้อมูล Tax Information และการกรอกข้อมูลบัญชีสำหรับรับเงินจาก Amazon

การกรอกข้อมูล Tax Information

จากการประกาศกฎใหม่ของรัฐบาลไทยเกี่ยวกับภาษี E-service ในกรณีที่ผู้ขายที่เป็นบุคคลธรรมดา อเมซอนจะเรียกเก็บ VAT 7% เพิ่มจากค่าธรรมเนียมการขาย (ค่าคอมมิชชั่น) ที่อเมซอนเก็บ (ไม่ใช่จากยอดขาย)

แต่หาก*ผู้ขายเป็นนิติบุคคล*โปรดกรอกรายละเอียด VAT ID ใน Account Info เพื่อที่ทางอเมซอนจะไม่เรียกเก็บเพิ่ม ทางบริษัทได้มีการจดทะเบียนกับสรรพากรไทยเป็นที่เรียบร้อยและจะจัดส่งข้อมูลมาให้รัฐบาลไทย

ขั้นตอนการกรอก Tax Interview
1. Log in เข้าสู่ Seller Central
2. ไปที่ Account Info ภายใต้การตั้งค่า
3. ไปที่หัวข้อ Tax Information และกด Update Tax Information
4. เลือกประเภทธุรกิจของคุณ
หากเป็นบุคคลธรรมดา สิ่งที่ต้องใช้ในการกรอกข้อมูลภาษี คือ ชื่อ-นามสกุล
หากเป็นนิติบุคคล สิ่งที่ต้องใช้ในการกรอกข้อมูลภาษีคือ ชื่อบริษัทและประเภทธุรกิจ
5. อย่าลืมระบุลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ของคุณหลังจากกรอกข้อมูลสำเร็จแล้ว

การกรอกข้อมูลบัญชีรับเงิน

Amazon ยังไม่เปิดช่องทางการโอนเงินมายังธนาคารไทย ดังนั้นผู้ขายจึงจำเป็นต้องเปิดบัญชีเงินฝากออนไลน์ (Virtual Wallet) ที่ Amazon รองรับ ทีมงานขอแนะนำ และยกตัวอย่างธนาคารที่สมัครง่าย อนุมัติภายในวัน เช่น Payoneer

ขั้นตอนการกรอกบัญชี สำหรับรับเงินบน Amazon
1. Log in เข้าสู่ Seller Central
2. ไปที่ Account Info ภายใต้การตั้งค่า
3. ไปที่หัวข้อ ข้อมูลการชำระเงิน (Payment Information) และเลือก วิธีการฝากเงิน (Deposit Methods)
4. เลือกตลาดปลายทาง หรือ Marketplace ที่คุณต้องการผูกบัญชีรับเงิน และกรอกเลขบัญชีได้เลย
© 2021, Amazon.com Services LLC.