Blog : [E-commerce Guide]

ขายอะไรดี? เคล็ดลับและขั้นตอนง่าย ๆ ในการเลือกของมาขายออนไลน์ให้ได้กำไร

ในโลกออนไลน์มีร้านค้าจำนวนมากที่ขายสินค้าหลากหลาย อย่างในเว็บ Amazon เองก็มีร้านค้ามากมายจากผู้ขายที่มาจากทั่วโลก ดังนั้นคนที่เริ่มต้นขายของออนไลน์และอยากได้กำไร จะต้องมองหาสินค้าที่ทำให้ร้านค้าของเราโดดเด่นและแตกต่างไปจากร้านค้าอื่น ๆ ที่ครองตลาดอยู่

การเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์ เป็นการตัดสินใจที่ดีเพราะมีข้อได้เปรียบหลายอย่าง โดยเฉพาะการเลือกเปิดร้านค้าออนไลน์บน marketplace แบบ Amazon เพราะมีเครื่องมือครบครันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเริ่มต้นวางแผนธุรกิจไปจนถึงการปั้นแบรนด์ ก็ทำได้อย่างสะดวกและง่ายดาย

ขั้นแรกของการเริ่มขายของออนไลน์คือการตัดสินใจให้ได้ว่าจะขายอะไรดี ซึ่งการพิจารณาเลือกสินค้ามาขายนั้น จำเป็นต้องศึกษาและหาข้อมูลให้มาก วันนี้เราเลยมาแนะนำขั้นตอนการเลือกของมาขายในร้านออนไลน์ พร้อมแนะนำปัจจัยในการเลือกสินค้าเพื่อให้ได้กำไร จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!
USD$39.99/เดือน + ค่าธรรมเนียมการขาย

ขั้นที่ 1:
ตัดสินใจว่าจะขายสินค้าอะไรดีด้วยประเภทของสินค้า

ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าสินค้าแบบไหนที่ถือเป็น “สินค้าที่ดี” ในการขายของออนไลน์
• สินค้าที่มีความต้องการตลอดทั้งปี – ร้านค้าขนาดเล็กควรมองหาสินค้าที่ขายได้ตลอดทั้งปี และควรหลีกเลี่ยงสินค้าที่จะขายได้เฉพาะช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น เช่น ไอโฟน 11 ลูกค้าที่ต้องการซื้อโทรศัพท์รุ่นนี้คงจะลดลงในอนาคตเมื่อมีรุ่นใหม่ ๆ เข้ามา
• สินค้าเฉพาะทาง มีเอกลักษณ์พิเศษ – ถ้าเราเลือกขายสินค้าที่โดดเด่นจากคู่แข่งในตลาดก็จะขายง่ายกว่าสินค้าที่หาได้ทั่วไป เช่น “สร้อยคอนาฬิกา จี้รูปนกฮูก” หรือ “สร้อยคอมีพู่ จี้รูปผีเสื้อ” ก็จะขายง่ายกว่าสร้อยคอธรรมดา ๆ แน่นอน
• สินค้าที่เล็กและเบา – สินค้าที่ใหญ่และหนักอาจจะมีค่าบรรจุภัณฑ์และค่าส่งที่สูง สำหรับร้านค้าเปิดใหม่ที่มีขนาดเล็ก ลองเริ่มจากการขายสินค้าขนาดเล็ก บรรจุลงกล่องง่าย ขนส่งง่าย เพื่อเป็นการประหยัดค่าขนส่ง ง่ายต่อการเก็บในคลังสินค้า รวมถึงในกรณีที่มีการคืนของที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตด้วย

เคล็ดลับในขั้นนี้คือการมองภาพรวมให้ออก มองถึงตลาดที่จะขาย โอกาสในการขาย และภาพลักษณ์ที่เราอยากให้แบรนด์เป็น สิ่งสำคัญคือการวางแผนระยะยาว เพื่อทำให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนและเราเองก็จะได้เห็นภาพที่ชัดเจนว่าอยากให้ธุรกิจของเราเป็นแบบไหน

ขั้นที่ 2:
ศึกษาตลาด ลองดูว่าใน Amazon มีอะไรขายแล้วบ้าง

หนึ่งในวิธีที่เร็วที่สุดคือการสำรวจดูว่าสินค้าอะไรที่ขายได้กำไรเยอะบนเว็บ Amazon ด้วยการสำรวจดูสินค้าที่ขายดีในประเทศไทย แล้วหาว่ามีขายใน Amazon รึเปล่า หรือจะลองเข้าไปในกรุ๊ปเฟซบุ๊กแล้วสอบถามร้านค้าเจ้าอื่นดูก็ได้ นอกจากนี้ก็ยังสามารถดูได้จากรายงานบน Seller Central ซึ่งมีให้บริการเป็นภาษาไทยแล้ววันนี้ และแอปพลิเคชันตัวช่วยต่าง ๆ ด้วย

เมื่อมีสินค้าในใจประมาณหนึ่งแล้ว ก็ลองสำรวจราคาดูว่าถ้าเราตัดสินใจขายสินค้าชิ้นนี้ จะมีกำไรมากพอหรือไม่

ขั้นที่ 3:
วิเคราะห์สินค้าที่อยากขายจากการดูคู่แข่ง

เมื่อรู้แล้วว่าสินค้าอะไรที่ขายได้กำไร ขั้นตอนต่อไปก็มาถึงการวิเคราะห์คู่แข่ง โดยเราแนะนำให้ลองไปอ่านรีวิวสินค้าของคู่แข่งดู ถ้ามีคนขายสินค้าประเภทเดียวกันแล้วสินค้านั้นมีรีวิวเป็นพัน การจะขายสินค้าชิ้นเดียวกันก็อาจจะเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก เพราะมันหมายความว่าเราต้องมั่นใจมาก ๆ ว่าจะสามารถขายสู้กับคู่แข่งได้

เมื่อมีสินค้าในใจที่มีโอกาสในการขายทำกำไรแล้ว ก็ได้เวลา สมัครบัญชีผู้ขาย บนเว็บ Amazon สิ่งที่ต้องทำก็แค่สร้างบัญชี และ ลงรายการสินค้า นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้บริการ Fulfillment by Amazon (FBA) เพื่อให้การส่งสินค้าไปอย่างรวดเร็ว และเพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้าได้อีกด้วย

เลือกของมาขายออนไลน์อย่างไรถึงจะขายดี

ในการตัดสินใจว่าจะขายอะไรดีใน Amazon เราต้องดูที่ปัจจัยหลายอย่างที่จะทำให้ธุรกิจขยายตัวขึ้นได้ ปัจจัยที่ยกมาด้านล่างนี้จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกสินค้าที่จะขายได้ ซึ่งถ้าเลือกตามแบบนี้แล้ว สินค้าที่นำมาขายก็จะเป็นของที่เราอยากขาย แถมยังสร้างกำไรให้ร้านได้ด้วย

ปัจจัยที่ 1: เลือกของที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น

ไม่ว่าจะเลือกขายอะไร ให้คิดไว้เสมอว่าของที่เอามาขายต้องเป็นของที่แก้ปัญหา หรือ Pain Point ของลูกค้า และช่วยให้ชีวิตของลูกค้านั้นง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นขายเสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัว หรือของใช้อื่น ๆ สินค้าของคุณก็ควรจะมีประโยชน์ต่อลูกค้า

การขายสินค้าที่ไม่ได้ตอบโจทย์ข้อนี้อาจจะเสี่ยงเล็กน้อย เพราะกลุ่มเป้าหมายที่สนใจอาจมีขนาดเล็ก ซึ่งจะส่งผลกระทบกับยอดขายและกำไรของเราได้ในระยะยาว

สินค้าจำพวก ตัวช่วยในการจัดบ้าน หนังสือ สินค้าเพื่อสุขภาพ และอื่น ๆ ที่ลูกค้าคิดแล้วว่ามันจะเพิ่มคุณภาพชีวิตพวกเขานั้นถือเป็นสินค้าที่ดี คุณอาจจะลองมองหาวิธีที่จะทำให้สินค้าเหล่านี้ทันสมัยและเป็นเอกลักษณ์ เช่น สินค้าที่ให้ลูกค้าสามารถออกแบบ หรือปรับแต่งได้เอง

การขายสินค้าในหมวดนี้จะทำให้เราเข้าใจตลาดและทำให้ธุรกิจขยายตัวมากขึ้น สิ่งสำคัญที่ต้องท่องไว้คือ เราขายสินค้าที่จำเป็นให้กับลูกค้า

ปัจจัยที่ 2: เลือกขายของที่สัมพันธ์กับความสนใจของเรา

การที่ธุรกิจจะเติบโตได้ในระยะยาวนั้น นักธุรกิจจะต้องลงทุนลงแรงด้วยใจรัก การทุ่มเทพลังให้กับธุรกิจจะทำให้เราประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นในขณะที่คุณกำลังตัดสินใจว่าจะขายสินค้าในหมวดอะไร ก็ควรดูว่าเราสนใจ หรือชอบทำอะไรด้วย

กำไรที่ดีที่สุดในการขายของออนไลน์ก็คือการที่เราได้ขายสิ่งที่เราเองก็ชอบหรือมีความสนใจ แถมยังช่วยในการเพิ่มสินค้าหลาย ๆ แบบให้กับร้านของเราอีกด้วย

ปัจจัยที่ 3: เริ่มขายดีตั้งแต่ต้นด้วยการวิเคราะห์ตลาดและกลุ่มเป้าหมาย

นักขายที่ดีจะรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของเราคือใคร สินค้าทุกชิ้นจะมีฐานลูกค้าอยู่ในตัว เช่น รองเท้าส้นสูง จะดึงดูดความสนใจของวัยรุ่นและผู้หญิงวัยทำงาน ส่วนสินค้าสำหรับเด็กทารก ก็จะดึงดูดความสนใจของพ่อแม่ที่เพิ่งมีลูก

ดังนั้นคุณต้องหากลุ่มเป้าหมายของคุณให้เจอ ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการศึกษาจากอินเตอร์เน็ต พูดคุยกับคนในวงการ หรือศึกษาจากร้านค้าและคนที่มีประสบการณ์มากกว่าเรา

การทำความเข้าใจกลไกของตลาดและกลุ่มเป้าหมาย จะช่วยทำให้เราประเมินได้ว่าสินค้าของเราดีพอหรือยัง หรือสามารถเพิ่มเติมเสริมแต่งส่วนไหนได้อีกบ้าง

สรุปได้ว่าเป้าหมายของเราคือการขายสินค้าที่ดีกว่าสินค้าที่มีอยู่แล้วในตลาดนั่นเอง

การทำให้สินค้าของคุณมีข้อดี หรือโดดเด่นต่างจากของที่ขายอยู่ในตลาด จะช่วยดึงดูดความสนใจได้ในระยะเวลาอันสั้น และทำให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว นำไปสู่การเพิ่มยอดขายในเวลาอันสั้น

ปัจจัยที่ 4: เลือกขายของที่ทำกำไรสูง

เป้าหมายของการทำธุรกิจให้สำเร็จก็คือการสร้างกำไร การขายสินค้าที่สะดุดตาแต่ทำกำไรได้ไม่ดีนั้นจะเป็นอุปสรรคต่อการขยายธุรกิจของคุณในระยะยาว ดังนั้นควรมั่นใจว่าเราตั้งราคาที่เหมาะสม และสามารถทำกำไรจากการขายได้ ที่สำคัญคือถ้าวางแผนตั้งอัตรากำไรได้ดี จะเป็นประโยชน์อย่างมากเวลาทำโปรโมชั่น เพราะต่อให้ลดราคาถล่มทลายแล้วก็ยังมีกำไรที่น่าพึงพอใจ พอได้ยินแบบนี้แล้วก็อยากเริ่มเปิดร้านขายของกันแล้วใช่มั้ยล่ะ!

เป็นธรรมดาที่การวางแผนกลยุทธิ์ดี ๆ จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตไปได้ไกล ดังนั้นสินค้าที่ผ่านการคัดเลือกจากขั้นตอนและปัจจัยด้านบน จะมีโอกาสในการครองตลาดและครองใจลูกค้ามากกว่าการเลือกสินค้าแบบไม่วางแผนอย่างแน่นอน!

เราหวังว่าเคล็ดลับที่นำมาในวันนี้ จะเป็นอีกไอเดียที่ช่วยสร้างกำไรให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณมากยิ่งขึ้น ถ้าอ่านจบแล้ว เริ่มเห็นโอกาสในการทำธุรกิจ ก็ได้เวลามาเปิดร้านขายของออนไลน์กันเลย!
USD$39.99/เดือน + ค่าธรรมเนียมการขาย
© 2021, Amazon.com Services LLC.