Success Selling Journey from Thailand
Siam Sawadee
โดยทั่วไป สินค้าส่งออกจากประเทศไทย เราก็มักจะนึกถึงข้าวหอมมะลิ ผลไม้ หรือสินค้าจำพวกอาหาร แต่ Siam Sawadee ทำให้เราเห็นว่าสินค้าไทยมีอะไรที่น่าสนใจมากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูป กระติ๊บข้าวเพ้นท์ลายไทย ไปจนถึงไม้สักแกะสลัก ไม่ใช่เพียงผู้บริโภคไทยเท่านั้นที่สนใจสินค้าเหล่านี้ แต่ผู้บริโภคจากทั่วโลกก็ชื่นชอบสินค้าเหล่านี้เช่นกัน
คุณ Luc Fenelon General Manager จากแบรนด์ Siam Sawadee แชร์เรื่องราวที่น่าสนใจตั้งแต่จุดเริ่มต้นของแบรนด์ ไปจนถึงการส่งออกสินค้าไทยสู่สากลผ่านเว็บไซต์ Amazon แน่นอนว่าเส้นทางของการทำแบรนด์หรือสร้างสินค้าย่อมมีความท้าทายมากมาย แต่ Siam Sawadee ก็ผ่านมันไปได้ และยังตีตลาดผู้บริโภคในอเมริกา ให้สินค้าได้โลดแล่นในตลาดโลกอีกด้วย
คุณ Luc Fenelon General Manager จากแบรนด์ Siam Sawadee แชร์เรื่องราวที่น่าสนใจตั้งแต่จุดเริ่มต้นของแบรนด์ ไปจนถึงการส่งออกสินค้าไทยสู่สากลผ่านเว็บไซต์ Amazon แน่นอนว่าเส้นทางของการทำแบรนด์หรือสร้างสินค้าย่อมมีความท้าทายมากมาย แต่ Siam Sawadee ก็ผ่านมันไปได้ และยังตีตลาดผู้บริโภคในอเมริกา ให้สินค้าได้โลดแล่นในตลาดโลกอีกด้วย
จุดเริ่มต้นของ Siam Sawadee
คุณอีฟ ผู้ก่อตั้ง Siam Sawadee เริ่มต้นธุรกิจในปี 2014 จากการขายพระพุทธรูป และรูปปั้นอื่นๆ ที่คนไทยเคารพบูชา ส่งออกไปยังลูกค้าต่างชาติครับ โดยในตอนแรก คุณอีฟทำธุรกิจแบบซื้อมาขายไป และนำสินค้ามาลงขายอยู่ในเว็บไซต์ออนไลน์ ซึ่งพอขายได้ซักพัก คุณอีฟจึงเริ่มเห็นว่าการส่งออกพระพุทธรูปมีกฎเกณฑ์ต่างๆ ค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการขอใบอนุญาตที่ใช้เวลาค่อนข้างนาน ซึ่งส่งผลต่อระยะเวลาในการจัดส่ง คุณอีฟจึงเริ่มมองหาสินค้าอื่นๆ ที่มีความต้องการในตลาดต่างประเทศมาขายเพิ่มเติม
คุณอีฟเดินทางไปยังเชียงใหม่เพื่อมองหาสินค้ามาลงขายเพิ่ม ในตอนนั้น เธอเห็นว่าที่เชียงใหม่มีสินค้าที่ทำจากไม้เยอะมาก เธอจึงเริ่มเข้าไปขอถ่ายรูปจากร้านค้าต่างๆเพื่อลงขายออนไลน์ หลังจากนั้น จึงเริ่มนำไม้มาลงสีเอง ออกแบบงานไม้เอง เริ่มหาวัสดุจากแหล่งต่างๆ เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศไทยและพม่า และให้ช่างฝีมือไทยแกะสลักและลงขาย และหลังจากนั้นประมาณ 2-3 ปี เมื่อทุกอย่างเริ่มลงตัว เธอมีสินค้าวางขายที่หลากหลายมากขึ้น ตั้งแต่พระพุทธรูป กระติ๊บข้าวเพ้นท์ลายไทย ไปจนถึงไม้แกะสลัก เธอจึงเริ่มสร้างเว็บไซต์ภายใต้ชื่อแบรนด์ Siam Sawadee ครับ
คุณอีฟเดินทางไปยังเชียงใหม่เพื่อมองหาสินค้ามาลงขายเพิ่ม ในตอนนั้น เธอเห็นว่าที่เชียงใหม่มีสินค้าที่ทำจากไม้เยอะมาก เธอจึงเริ่มเข้าไปขอถ่ายรูปจากร้านค้าต่างๆเพื่อลงขายออนไลน์ หลังจากนั้น จึงเริ่มนำไม้มาลงสีเอง ออกแบบงานไม้เอง เริ่มหาวัสดุจากแหล่งต่างๆ เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศไทยและพม่า และให้ช่างฝีมือไทยแกะสลักและลงขาย และหลังจากนั้นประมาณ 2-3 ปี เมื่อทุกอย่างเริ่มลงตัว เธอมีสินค้าวางขายที่หลากหลายมากขึ้น ตั้งแต่พระพุทธรูป กระติ๊บข้าวเพ้นท์ลายไทย ไปจนถึงไม้แกะสลัก เธอจึงเริ่มสร้างเว็บไซต์ภายใต้ชื่อแบรนด์ Siam Sawadee ครับ
ก้าวแรกบน Amazon
ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญมั้ยนะครับ แต่หลังจากที่สร้างเว็บไซต์เสร็จได้ประมาณเดือนสองเดือน ก็มีตัวแทนจาก Amazon ติดต่อเชิญชวนคุณอีฟไปลงขายสินค้าเลย ซึ่งตรงจุดนี้ เป็นจุดที่คุณอีฟขอให้ผมมาช่วยดูแล เริ่มเข้ามาดูการขายบน Amazon ตั้งแต่การลงสินค้าไปจนถึงการส่งออก ซึ่งเหตุผลหลักที่เราตัดสินใจลงขายบน Amazon เพราะ ณ ตอนนั้น ผมเห็นว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะสามารถสร้าง รายได้อีกทางหนึ่ง เพราะเมื่อเราลงของขายแล้ว สินค้ามันก็ไม่ไปไหน โจทย์คือเราต้องทำอย่างไร ให้คนเห็นและรู้จักสินค้าของเรา
เหตุผลหลักที่เราตัดสินใจลงขายบน Amazon เพราะ ณ ตอนนั้น ผมเห็นว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะสามารถสร้าง รายได้อีกทางหนึ่งLuc FenelonGeneral Manager, Siam Sawadee
หาพื้นที่ในตลาดให้เจอ
ด้วยความที่เรามีสินค้าหลายประเภท ในตอนแรกนั้น เราวางแผนว่าจะกระติ๊บข้าวเพ้นท์ลายไทย เนื่องจากเราเข้าไปศึกษาตลาด Amazon ดูแล้วว่ามีคู่แข่งที่ขายสินค้าคล้ายกับของเราไหม และพบว่าไม่มีใครทำสินค้าเหมือนเราเลย อาจจะมีบางส่วนที่ใกล้เคียงกันเช่น กระติ๊บใส่ข้าวเหนียวที่ทำจากไม้ไผ่ แต่นั่นก็ไม่เหมือนของเรา เราจึงค่อนข้างมั่นใจว่าเรามีพื้นที่ในตลาดตรงนี้ ซึ่งผมรออยู่ประมาณ 6 เดือนเลยกว่าจะสินค้าจะขายได้ แต่ในระหว่างนั้น ผมก็ค้นพบว่า จริงๆ ยังไม่มีผู้ขายคนไหนขายไม้แบบเราเลย ส่วนใหญ่สินค้าที่อยู่บน Amazon ในตอนนั้นจะเป็นไม้ประเภท MDF (Medium-density Fibreboard) ซึ่งเป็นไม้ที่จะบวมเมื่อโดนน้ำ แต่ของเราเป็นไม้สักและไม้ฉำฉา เป็นไม้ที่มีลวดลายสวยงาม แข็งแรง คงทน มีความคงทน และยังมีช่องว่างในตลาดอยู่ ผมจึงเปลี่ยนมาโฟกัสตรงนี้แทน
ต้องบอกว่าเราเรียนรู้หลายอย่างจากลูกค้าของเรา ในตอนแรกที่เราขายไม้แกะสลักออกไป เราเห็นลูกค้าของเราถ่ายรูปลงว่าเขานำมันไปไว้ที่หัวเตียง บ้างก็เอาไปไว้เป็นโต๊ะ หรือเป็นหน้าต่าง หรือแม้กระทั่งเอามันไปเป็นฉากกั้นห้องหรือประตูบานเลื่อน เราเลยได้ไอเดียตรงนี้ ว่าสินค้าของเราจริงๆ เอาไปใช้ทำได้หลายอย่างกว่าที่เราคิด และนำมันมาโปรโมทให้ลูกค้าใหม่ๆ ต่อไปได้
Amazon Journey
จนถึงวันนี้ เราก็ขายบน Amazon มาประมาณ 7 ปีแล้วตั้งแต่ปี 2016 โดยเราใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ปีกว่าจะเริ่มลงตัวและขายได้ ช่วงที่ผ่าน เราไม่ได้ทำการตลาดกันเยอะ เนื่องจากเรามีข้อจำกัดทางด้านงบประมาณ จะมีลงทุนบ้างในช่วงพีคซีซั่น เช่น Black Friday หรือ Christmas ซึ่งเราลงเงินในการทำโฆษณาต่างๆ ลงแรงในการดูแลการลงสินค้าต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น และใช้เวลาจัดการสต๊อกสินค้าให้อัปเดทอยู่เสมอเพื่อให้การขนส่งเป็นไปอย่างราบรื่น และตรงเวลาในช่วงเวลาที่ลูกค้าเข้ามาซื้อของเป็นจำนวนมาก นอกเหนือจากนี้ เรายังมีโอกาสได้เข้าร่วมงานสัมนาที่ทาง Amazon Thailand จัดขึ้นด้วย
รู้หรือไม่?
Amazon มีเทศกาลพิเศษมากมายสำหรับการเพิ่มยอดขาย
ผู้ขายบนเว็บไซต์ Amazon สามารถเข้าร่วมแคมเปญวันสำคัญต่างๆ ได้ตลอดปี เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้บริโภค และดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ด้วยโปรโมชันพิเศษต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วง Prime Day ในเดือนกรกฎาคม Black Friday และ Cyber Monday ช่วงเดือนพฤศจิกายน และเทศกาลวันคริสมาสต์ในเดือนธันวาคม
การขายสินค้าออนไลน์หรือการขายแบบส่งออกไปต่างประเทศมีเรื่องที่เราต้องคำนึงหลายอย่าง นอกเหนือจากเรื่องการตลาดหรือกลุ่มลูกค้าแล้ว เรื่องการขนส่งก็เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญ ทุกวันนี้ เรายังส่งของให้ลูกค้าด้วยตัวเอง ซึ่งลูกค้าจะได้รับสินค้าหลังจากที่สั่งภายใน 5 วันทำการ เนื่องจากสินค้าของเรามีขนาดใหญ่และต้องการการดูแลเป็นพิเศษ โดยถ้าดูสินค้าที่ขายดีที่สุดของเราในตอนนี้ จะเป็นไม้แกะสลักสำหรับหัวเตียงขนาด 6 ฟุต อีกส่วนหนึ่งที่หลายคนอาจมองข้าม แต่ผมมองว่ามันช่วยให้สินค้าของเราแตกต่างจากคู่แข่งคือเรื่องรูปถ่ายสินค้า ตรงนี้เราทำได้ดีกว่าคู่แข่ง ถ้าเทียบกับคู่แข่งฝั่งตะวันตกแล้ว คุณภาพรูปถ่ายของเราดีกว่ามาก
แน่นอนว่าการขายของบน Amazon ทำให้มีคนรู้จักสินค้าของคุณมากขึ้น และทำให้ลูกค้าไว้ใจสินค้าของเรา และเมื่อคุณขายบน Amazon ลูกค้าจะไว้ใจคุณมากขึ้นทันที เพราะถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้จักแบรนด์ของคุณ แต่พวกเขาก็ไว้ใจ Amazon อีกอย่างคือ Tools ต่างๆ บน Amazon มีประโยชน์มาก ใช้งานง่ายหากคุณศึกษามันอย่างดี
เมื่อคุณขายบน Amazon ลูกค้าจะไว้ใจคุณมากขึ้นทันที เพราะถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้จักแบรนด์ของคุณ แต่พวกเขาก็ไว้ใจ AmazonLuc FenelonGeneral Manager, Siam Sawadee
บทถัดไปของ Siam Sawadee
ปัจจุบันลูกค้ากว่า 90% ของเราคือลูกค้าอเมริกัน ที่เหลือคือลูกค้าจากยุโรปและประเทศอื่นๆ โฟกัสถัดไปของเรา อย่างแรกคือการหาลูกค้าใหม่ในแถบประเทศอื่นๆ อาทิ ประเทศจีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และอินเดีย ซึ่งข้อดีของเราขายบนอเมซอนคือเราสามารถขยายฐานลูกค้าไปประเทศอื่นๆ ได้ง่าย ถัดมาคือเราอย่างขยายฐานลูกค้าในประเทศไทย สินค้าของเราเช่น พวกเฟอร์นิเจอร์หรือสินค้า Custom Made เริ่มมีความต้องการมากขึ้นในประเทศไทย เราจึงอยากโฟกัสตรงนี้มากขึ้น นอกจากนี้ เรากำลังทำโกดังและโชว์รูมใหม่ เนื่องจากเรามีลูกค้าจากโรงแรมต่างๆ ในไทยด้วย หากเขาต้องการเห็นสินค้าจริง รวมถึงวัสดุหรือวิธีการทำของเรา ก็สามารถเข้ามาชมได้ที่โกดังของเราและที่โชว์รูม
Siam Sawadee เป็นตัวอย่างแบรนด์ไทยที่พร้อมปรับตัวให้เข้ากับตลาดและกลุ่มลูกค้าเสมอ ทางแบรนด์มองเห็นช่องว่างในตลาดของสินค้าประเภทไม้ และพร้อมนำสินค้ามาปิดช่องว่างตรงนี้ทันที นอกจากนี้ ทางแบรนด์ยังใส่ใจและพร้อมศึกษาเทรนด์จากลูกค้า เมื่อเห็นลูกค้านำสินค้าไปใช้ประโยชน์นอกเหนือกจากที่ทางแบรนด์ตั้งใจไว้ ก็นำมาเป็นไอเดีย และโปรโมตให้ลูกค้าอื่นๆ นำไปปรับใช้ต่อไป
#ขายบนAmazon #ecommerce #FBA #ส่งออกสินค้าไทย #Amazonseller #AmazonThailand #สินค้าขายดี #การสร้างแบรนด์ #แบรนด์ไทย #เทคนิกการขาย
© 2021, Amazon.com Services LLC.
Siam Sawadee
แบรนด์ไม้แกะสลัก
ก่อตั้งปี 2014
ผู้ก่อตั้ง: Kanthaporn Naewmaung
ก่อตั้งปี 2014
ผู้ก่อตั้ง: Kanthaporn Naewmaung
"ตอนแรกที่เราขายไม้แกะสลักออกไป เราเห็นลูกค้าของเราถ่ายรูปลงว่าเขานำมันไปไว้ที่หัวเตียง บ้างก็เอาไปไว้เป็นโต๊ะหรือหน้าต่าง หรือแม้กระทั่งเอามันไปเป็นฉากกั้นห้อง เราเลยได้ไอเดียตรงนี้ ว่าสินค้าของเราจริงๆ เอาไปใช้ทำได้หลายอย่างกว่าที่เราคิด"
