>> Case Study

เริ่มขายออนไลน์ ขายอะไรดี? หาของมาขายอย่างไรให้ขายดี ตัวอย่างจากผู้ขายจริง

ตัวอย่างจากประสบการณ์จริงของผู้ขายของ Amazon ที่จะมาแชร์เทคนิกการสำรวจตลาด หาสินค้าที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าในประเทศสหรัฐฯ เพื่อลงขายในเว็บไซต์ Amazon.com
สินค้าแรกที่ไซริลเริ่มเอามาลงขายใน Amazon คือชุดแปรงทำความสะอาดไม้กอล์ฟ ที่เขาเริ่มมาจาก Passion และความชอบของตน ขยายฐานจากสินค้าแปรงทำความสะอาดเดี่ยวๆ เป็นแปรงแบบ Set ที่มาพร้อมกับ Accessories ต่างๆ ถึงแม้ตอนนั้นเขายังเป็นมือใหม่มากๆในการขายออนไลน์บน Amazon แต่เขาก็ยังมุ่งมั่นในการทำ Product Research อย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจาก 1) วิเคราะห์เจาะลึกราคาของคู่แข่ง 2) เผื่อต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆในการหาสินค้าและขายสินค้านั้นๆ เช่น ค่าโฆษณา ค่าบัญชีผู้ขาย ค่าขนส่ง และอื่นๆ 3) คำนวณอัตรากำไร แต่จากประสบการณ์ของเขา เขามองว่าเท่านี้อาจจะยังไม่เพียงพอ มาดูกันว่า เราควรจะต้องคำนึงถึงปัจจัยอะไรบ้างในการขายของออนไลน์บน e-commerce

Do’s and don’ts of selling on Amazon

มาดูกันว่าสิ่งที่ไซริลมองว่าอะไรควรหรือไม่ควรทำ เมื่อคุณขายออนไลน์บน Amazon

1. เริ่มจากความชอบหรือ Passion
ในตอนนั้นไซริลกำลังมี Passion เกี่ยวกับการเล่นกอล์ฟ เขามองว่าถ้าลองมองหาสินค้าที่ตอบโจทย์คนเล่นกอล์ฟ โดยเริ่มจากหากลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ โดยการทำ keyword research ว่ามีคนมองหาสินค้าประเภทนี้มากน้อยเพียงใด และทำการวิเคราะห์ต้นทุนกำไรอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่า สินค้าที่เขาจะเอามาขายจะสามารถทำเงินบนโลกออนไลน์ได้

2. ถ้าคู่แข่งเยอะเกินไป = หาจุดได้เปรียบทางการแข่งขันได้ยาก
ถ้าดูจากตัวอย่างของการนำแปรงทำความสะอาดอุปกรณ์กอล์ฟแล้วมองย้อนกลับไป ไซริลเล่าให้ฟังว่าเขาเจอสินค้าประเภทเดียวกันกว่า 400 รายการบนโลกธุรกิจออนไลน์เมื่อปี 2018 สินค้าแทบจะเหมือนกันทุกอย่าง ที่แตกต่างกันแค่ยี่ห้อสินค้าเท่านั้น เขาเลยได้รู้บทเรียนสำคัญว่า ที่จริงแล้วการเลือกสินค้าที่อาจจะยังไม่ได้มีคู่แข่งมากและมีจุดขายหรือฟังก์ชั่นการใช้งานที่แตกต่าง เป็นปัจจัยสำคุญในการทำกลยุทธ์การตลาดให้ขายได้ในการขายออนไลน์

3. เข้าใจถึงต้นทุนการขายบน Amazon
ไซริลแชร์ให้ฟังว่าสาเหตุที่สินค้าตัวแรกๆของเขาขายไม่ได้กำไรอย่างที่คิด เพราะเขามองข้ามค่าใช้จ่ายและต้นทุนต่างๆที่เกิดขึ้นบน Amazon ซึ่งเขาได้แชร์ว่า ผู้ประกอบการควรจะเข้าใจถึงโครงสร้างต้นทุนของสินค้าและต้นทุน และค่าธรรมเนียมการขายบน Amazon ด้วย ก่อนที่จะทำการตั้งราคาขายเพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ไซริลเน้นย้ำถึงความสำคัญในการคำนวณต้นทุนตั้งแต่จุดเริ่มต้นการหาหรือผลิตสินค้าจนถึงค่าใช้จ่ายเมื่อขายได้ เช่น การรวมค่าสินค้า ค้าขนส่งจากต้นทางไปประเทศปลายทาง ค่า FBA ค่าแพ็คสินค้าจาก Supplier ค่าโฆษณา ค่าจัดเก็บสินค้า เป็นต้น

ค่าใช้จ่ายในการขายบน Amazon

ค่าใช้จ่ายในการขายออนไลน์บน Amazon จะขึ้นอยู่กับแผนการขายที่คุณเลือก ประเภทของสินค้าที่ลงขาย การเลือกการจัดการออร์เดอร์ (FBA หรือส่งเอง) ในที่นี้ ขึ้นอยู่กับว่าผู้ขายจะสะดวกเลือกการจัดการในแบบใดที่ตอบโจทย์กับธุรกิจออนไลน์ของตนเอง

Key takeaways

1. พยายามกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์โดยการหาสินค้าที่มีคู่แข่งไม่มาก แต่สินค้านั้นมีกลุ่มลูกค้าความต้องการสินค้าสูง

2. ทำความเข้าใจถึงกฎระเบียบของสินค้าของคุณก่อนขายออนไลน์บน Amazon เช่น ข้อกำหนดของสินค้าอาหาร เช่น US FDA หรือกฎระเบียบอื่นๆตามประเภทสินค้านั้นๆ

3. สร้างความแตกต่างให้กับสินค้า และธุรกิจของคุณ

4. อย่าลืมทำความเข้าใจว่าสินค้าของคุณมีต้นทุนเท่าไรก่อนตั้งราคา

5. ตั้งเป้าหมายในการทำธุรกิจออนไลน์ ไซริลมีการยกตัวอย่างจากประสบการณ์จริงของเขาว่า เขาเริ่มจากการตั้งเป้าว่าเขาควรให้สินค้าของเขามีกำไรอย่างน้อย 30% ซึ่งมีการคำนวณอย่างละเอียดหลังจากการหักต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆในการขายของบนเว็บขายของออนไลน์บน Amazon
ถ้าเพิ่งเริ่มขาย ผมแนะนำว่าอย่างเพิ่งรีบร้อนขายในสินค้าที่มีคู่แข่งเยอะ ให้คุณลองขายในสินค้าที่ดูมี Demand แต่ยังไม่ค่อยมีคู่แข่งดูก่อน

สำหรับผู้ขายใหม่ อาจจะลองหาตลาดของ Category ที่ดูว่าจะมีสินค้าหลายชนิดภายใน Category นั้นๆ เพื่อเป็นการเทสต์ตลาดดูก่อนว่าสินค้าไอเท็มไหนจากแบรนด์ของคุณที่น่าจะทำกลยุทธ์การตลาดได้ง่าย

– ไซริล
จุดเริ่มต้นที่คุณริวได้ลองมองหาช่องทางในการขายของออนไลน์บน อเมซอน คือ เขามองว่าอเมซอนมีการใช้ข้อมูล ดาต้าต่างๆในการตัดสินใจและดำเนินธุรกิจได้ ซึ่งตรงกับประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขาในการทำ Digital Marketing

อีกสิ่งหนึ่งคือ การลงทุนเพื่อขายออนไลน์ในอเมซอน ไม่ต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้นสูงเมื่อเทียบกับการเปิดร้านค้าที่มีหน้าร้านทั่วไป อย่างสุดท้ายคือ เขามองว่าการขายออนไลน์ สามารถเป็นนายตัวเอง และกำหนดเวลาการทำงานได้ตามตารางเวลาของตัวเอง

เขาเล่าเพิ่มเติมว่า การหาสินค้ามาทำธุรกิจบนอเมซอน เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญมากในการกำหนดกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ กลยุทธ์การตลาด และ ความสำเร็จในการขายของออนไลน์บนอเมซอน จุดสังเกตุที่เขามองเห็นจากสินค้าขายดีต่างๆ เช่น เป็นสินค้าที่มีความต้องการสูง มี Ranking ที่ดีในอเมซอน มีต้นทุนสินค้าต่ำเพื่อที่จะให้มีสัดส่วนกำไรได้สูงขึ้น
อาจจะไม่จำเป็นที่คุณจะเจอสินค้าที่ใช่ และทำเงินให้คุณได้ในตอนแรกที่ขายของออนไลน์บนอเมซอน

สิ่งสำคัญคือคุณเก็บประสบการณ์ ข้อมูลต่างๆเพื่อนำไปปรับใช้ในสินค้าตัวต่อๆไปของคุณ แต่ที่แน่ๆที่ผลเรียนรู้มา สินค้าอะไรก็ตามที่มีฟังก์ชั่นในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ก็จะเป็นสินค้าที่มีความต้องการของผู้บริโภค

– Lew

หาสินค้ามาขายบน Amazon อย่างไร ขายอะไรดี?

ในมุมมองของคุณริว เขามองว่าสินค้าที่ขายได้ คือสินค้าที่มีจุดขายด้านการแก้ปัญหา (Problem), มีความแตกต่าง (Unique) หรือมีความต้องการในตลาด (Demand)

Key takeaways

1. ลองใช้เครื่องมือของอเมซอนในการดูเทรนด์สินค้า เช่น Product Opportunity Explorer

2. เรียงลำดับความสำคัญในการเริ่มทำธุรกิจออนไลน์ เช่น Product Research ต้องมาก่อน > การทำ Listing ลงสินค้า > โฆษณา > ขยายไลน์สินค้าหรือตลาดอื่นๆ

3. มองหาพาร์ทเนอร์หรือผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เช่น จากประสบการณ์ของคุณริว เขามักจะติดต่อกับทีมกฎหมายที่สามารถให้คำแนะนำได้ดี หรือผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เช่น เอเจนท์ช่วยหาสินค้า ดีไซน์เนอร์ ตากล้อง บริษัทขนส่ง เป็นต้น คุณสามารถหาผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ในประเทศไทย ได้ที่นี่

Note: The information contained in this article does not constitute legal, financial or other professional advice. If you are in doubt as to the action you should take, please consult your legal, financial or other professional adviser. In addition, the content in this article is for information only and must not be construed as a guarantee of future results. Many factors influence the demand for a seller’s products, including price fluctuations, consumer demand shifts, and sellers remain responsible for determining the products they sell and their prices.
LOCATION
Singapore
INDUSTRY
Cyril - Toys & Games
Lew - Home & Garden
AMAZON LAUNCH
Cyril - 2018
Lew - 2021

เริ่มต้นขายของออนไลน์บน Amazon วันนี้

ค่าธรรมเนียมการขาย USD$1 ดอลล่าสหรัฐในช่วง 6 เดือนแรก
สำหรับการลงทะเบียน Professional Selling Plan เท่านั้น และต้องลงทะเบียนเสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนด คือ ตั้งแต่วันนี้ถึง 3 เมษายน 2024
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
© 2021, Amazon.com Services LLC.