>> Case Study

วิธีการเปิดตัวสินค้าให้ประสบความสำเร็จและขายบน Amazon

ผู้ขายออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จบน Amazon.com และผู้เชี่ยวชาญ Helium10 ได้มีการให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีการเปิดตัวสินค้าใหม่เพื่อขายบน Amazon

ศาสตร์และศิลป์ของการเปิดตัวสินค้าที่ประสบความสำเร็จบน Amazon.com

หลายคนอาจจะมีคำถามว่า ขายของ Amazon ขายอะไรดี? การเปิดตัวสินค้าที่ประสบความสำเร็จในการขายของออนไลน์บน Amazon.com นั้นต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ เนื่องจากวิทยาศาสตร์ใช้ประโยชน์จากข้อมูลในการประเมินความต้องการสินค้า การแข่งขัน การกำหนดราคา และจำนวนของรีวิว ส่วนศิลปะจะคำนึงถึงความต้องการของลูกค้า เช่น การวิเคราะห์รีวิวจากลูกค้าเพื่อประเมินความต้องการที่ยังไม่ได้รับการตอบโจทย์หรือแตกต่างกัน

Amazon ร่วมพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านการขายของออนไลน์บน Amazon เหล่านี้เพื่อค้นพบเคล็ดลับกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์การตลาดเกี่ยวกับวิธีที่ผู้ขายสามารถรวมศาสตร์และศิลป์ของการวิเคราะห์สินค้าเข้าด้วยกันเพื่อเปิดตัวสินค้าอย่างประสบความสำเร็จและขายบน Amazon


• Cyril Chia, Amazon Global Selling Seller Ambassador
• Stev Tam, ผู้ก่อตั้ง PETITE SIMONE แบรนด์กระเป๋าและเครื่องประดับฟาสต์แฟชั่นบน Amazon.com
• Bradley Sutton, ผู้อำนวยการฝ่ายการฝึกอบรมและ Chief Evangelist ของ Helium10
สำหรับการเดินทางของผม ผมค้นหาสินค้าโดยใช้วิธีการที่เป็นวิทยาศาสตร์มากกว่า เช่น การพิจารณาอุปสงค์และอุปทาน โดยอุปสงค์หมายถึงปริมาณการค้นหา และอุปทานหมายถึงจำนวนคู่แข่งที่กำลังขายสินค้าชนิดเดียวกัน

- Cyril
Amazon: อะไรคือข้อมูลและเครื่องมือที่ใช้กันมากที่สุดในการตัดสินใจว่าสินค้าๆ หนึ่ง มีศักยภาพในการขายออนไลน์บน Amazon หรือไม่
Cyril: ผมทดลองและค้นหาสินค้าโดยใช้ข้อมูลแทนที่จะอิงตามความรู้สึกอยากขายบน Amazon ครับ สำหรับการเดินทางของผม ผมค้นหาสินค้าโดยใช้ศาสตร์มากกว่า เช่น การพิจารณาอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์หมายถึงปริมาณการค้นหา ส่วนอุปทานหมายถึงจำนวนคู่แข่งที่กำลังขายสินค้าชนิดเดียวกัน

ผมขายสินค้าในหมวดหมู่ศิลปะและงานฝีมือ (อันที่จริงแล้วผมไม่ค่อยถนัดเรื่องศิลปะและงานฝีมือสักเท่าไหร่) แต่ก็สามารถหาสินค้านี้เจอได้โดยใช้เครื่องมือของ Amazon และโดยการพิจารณาปริมาณการค้นหา คู่แข่ง การกำหนดราคา จำนวนหน่วยสินค้าที่ขายได้ต่อเดือน เป็นต้น
Bradley: ปริมาณการค้นหาเป็นสิ่งสำคัญ แต่บางครั้ง สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือการพิจารณายอดขายโดยประมาณตามคีย์เวิร์ด คุณสามารถมีคีย์เวิร์ดหนึ่งคำที่มีการค้นหา 100,000 ครั้งอย่างคำว่า “ห้องครัว” แต่มีการซื้อสินค้าเพียง 500 รายการ เพราะคนเราไม่ได้พิมพ์ว่า “ห้องครัว” แล้วซื้ออะไรสักอย่าง แต่มักใช้คำนี้เพื่อเรียกดูสินค้าเท่านั้น ในทางกลับกัน คุณอาจมีคำที่เฉพาะเจาะจงอย่าง “สปาตูล่าพลาสติก” และมีการค้นหาเพียง 10,000 ครั้ง แต่มีคนซื้อจริงๆ ถึง 3,000 คน ดังนั้นการพิจารณายอดขายตามคีย์เวิร์ดจึงสำคัญกว่าครับ
Amazon: คุณคัดเลือกไอเดียสินค้าอันดับต้นๆ ที่จะขายออนไลน์บน Amazon อย่างไร ระหว่างแพสชัน ผลกำไร ศักยภาพในการเติบโต ขนาดการแข่งขัน และความคิดเห็นของลูกค้าเกี่ยวกับต้นแบบสินค้า คุณให้ความสำคัญกับสิ่งใด
Stev: ผมเลือกความคิดเห็นของลูกค้าและศักยภาพของตลาดครับ ตัวอย่างเช่น ในปี 2022 ตอนที่ข้อจำกัดด้านการเดินทางในช่วงโควิดเริ่มผ่อนคลายลง เราสังเกตว่ายอดขายในหมวดหมู่กระเป๋าเดินทางของเราเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก และเราก็เริ่มสร้างสต็อกเนื่องจากศักยภาพของตลาด

ในทางกลับกัน ความคิดเห็นของลูกค้าก็สำคัญกับเราด้วย เพราะว่าฟาสต์แฟชั่นคือรากฐานสำคัญของแบรนด์ของเรา และเราใช้ตัวชี้วัดสภาพตลาด เช่น ความพึงพอใจและความคิดเห็นของลูกค้า ในการสร้างกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์การตลาดของฟาสต์แฟชั่น
Amazon: รีวิวจากลูกค้าก็อาจเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญในการให้ไอเดียเกี่ยวกับนวัตกรรมสินค้าและการวิเคราะห์ช่องว่างของคู่แข่งได้ จึงอยากทราบว่าแบรนด์ของคุณใช้รีวิวจากลูกค้าในการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เพื่อขายของออนไลน์บน Amazon อย่างไร
Stev: Sofii คือกระเป๋ารุ่นหนึ่งของเราที่ขายดีในตลาดสหรัฐฯ โดยเราได้รับแนวคิดการออกแบบของ Sofii มาจากตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากเป็นหนึ่งในสินค้าขายดีในประเทศไทยและมาเลเซีย เราเลยลองขายกระเป๋านี้ในสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน แล้วก็ขายดีด้วย แต่หลังจากผ่านไปสองสามสัปดาห์เราก็ได้รับรีวิวจากลูกค้าว่ากระเป๋ามีขนาดเล็กเกินไป และลูกค้าก็อยากให้มีช่องในกระเป๋ามากกว่านี้ด้วย นั่นคือตอนที่ทีมงานฝ่ายการออกแบบและผลิตภัณฑ์กลับไปวางแผนกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์กันใหม่เพื่อเริ่มออกแบบ Sofii (เวอร์ชันสหรัฐฯ) เราใช้เวลา 3 วันในการออกแบบกระเป๋าต้นแบบ และ 7 วันในการผลิต และอีก 30 วันเพื่อให้กระเป๋าพร้อมสำหรับการขายออนไลน์บน Amazon สหรัฐอเมริกา
หากต้องการขายบน Amazon สหรัฐอเมริกา สิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งก็คือการปรับกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์การตลาดให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าในสหรัฐฯ เราทำธุรกิจฟาสต์แฟชั่น ดังนั้นเราจึงผลิตและปรับแต่งสินค้ายอดนิยมของเราตามความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันไป

- Stev
Amazon: เมื่อพูดถึงหมวดหมู่สินค้าที่คุณขาย การปรับดีไซน์ให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าในสหรัฐฯเป็นอันดับแรกมีความสำคัญเพียงใด และอะไรคือความแตกต่างระหว่างลูกค้าในสหรัฐฯ กับลูกค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Stev: หากต้องการทำธุรกิจออนไลน์บน Amazon สหรัฐอเมริกา สิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งก็คือการออกแบบสำหรับลูกค้าในสหรัฐฯ เราทำธุรกิจฟาสต์แฟชั่น ดังนั้นเราจึงผลิตและปรับแต่งสินค้ายอดนิยมของเราตามความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันไป ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างสหรัฐฯ กับเอเชียขึ้นอยู่กับฤดูกาลครับ

ตัวอย่างเช่น ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแต่ละฤดูกาลไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไรนักแต่อากาศร้อนเสมอ ผู้คนมีแนวโน้มที่จะสวมเสื้อผ้าสีสันสดใส ส่วนในสหรัฐฯ เราสังเกตว่าความต้องการของลูกค้าจะแตกต่างกันไปตามฤดูกาล เช่น ในช่วงฤดูร้อน ลูกค้าจะชอบเสื้อผ้าสีสันสดใสกว่า และในช่วงฤดูหนาว ลูกค้าจะต้องการเสื้อผ้าสีเข้มขึ้น นั่นคือสิ่งที่เราต้องพิจารณาไปตามประเทศครับ
Amazon: เรามาพูดถึง Product Opportunity Explorer ซึ่งเป็นข้อมูลใหม่กันบ้าง Bradley คุณได้ลองใช้ Product Opportunity Explorer แล้วหรือยัง
Bradley: ผมชอบใช้ Product Opportunity Explorer สำหรับการวิเคราะห์คอนเวอร์ชันจากการค้นหา ในการขายออนไลน์และผมยังชอบใช้เครื่องมือนี้โดยการดูจำนวนสินค้าที่ Amazon ระบุว่าอยู่ในตลาดเฉพาะกลุ่ม เช่น หากคุณดูในรายละเอียด คุณจะสามารถเข้าไปดูจำนวนของสินค้าที่รวมกันเป็น x% ของจำนวนคลิกสำหรับคีย์เวิร์ดเหล่านี้ในตลาดเฉพาะกลุ่มหนึ่งๆ ได้ เช่น หากคุณดูตลาดเฉพาะกลุ่มที่มีสินค้า 150 รายการ นั่นหมายความว่าสินค้าต่างๆ ที่แข่งขันกันในตลาดเฉพาะกลุ่มนี้มีการกระจายตัว หากคุณดูตลาดเฉพาะกลุ่มที่มีสินค้าแค่ 6-7 รายการที่รวมกันเป็น 80% ของจำนวนคลิก นั่นหมายความว่าสินค้าเหล่านี้ครองตลาดเฉพาะกลุ่มนี้
Amazon: สุดท้ายนี้ เครื่องมือและข้อมูลที่คุณชอบใช้สำหรับการวิจัยคีย์เวิร์ดและสินค้าได้แก่อะไรบ้าง
Cyril: ผมจะใช้ Product Opportunity Explorer และ Brand Analytics ของ Amazon และใช้เครื่องมือ Magnet and Cerebral ของ Helium10 ครับ แล้วก็ยังใช้ Google สำหรับการค้นคว้าเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดและแนวโน้มทั่วไปด้วยครับ
Stev: Product Opportunity Explorer ของ Amazon และ Google Trends ครับ ข้อมูลสำคัญที่เราพิจารณาคือปริมาณการค้นหาคีย์เวิร์ด รวมถึงยอดขายโดยเฉลี่ยสำหรับสินค้าแต่ละรายการครับ
Note: Amazon does not endorse any service provider or its services. If you choose to retain a service provider, you will be contracting directly with that provider, which will be providing services to you at your direction.
手续费

Product Opportunity Explorer

Product Opportunity Explorer ช่วยให้คุณเข้าใจความต้องการของลูกค้าบน Amazon และช่วยให้คุณเล็งเห็นโอกาสในการขายสินค้าใหม่ๆ รวมถึงข้อที่ควรปรับปรุงแก้ไขในสินค้าที่คุณมีอยู่อีกด้วย
ค้นพบสิ่งที่ลูกค้าต้องการ
ค้นหาความต้องการของลูกค้าผ่าน keyword ที่ลูกค้าใช้ในการค้นหาสินค้า โดยสามารถดูได้ที่ keyword ที่มีการค้นหาสูงสุด หรือ keyword ที่มีการค้าหาเพิ่มขึ้นมากที่สุด
โอกาสในการผลิตสินค้าที่แตกต่าง
เห็นช่องว่างในการผลิตสินค้าที่แตกต่างจากในตลาด
มองเห็นภาพรวมของคู่แข่ง
เข้าถึงข้อมูลของตลาด ซึ่งรวมถึงข้อมูลของแบรนด์และสินค้าประเภทเดียวกับผู้ขาย ราคาเฉลี่ยในตลาด รีวิวจากลูกค้า ไปจนถึงข้อมูลสต็อกสินค้า
*An Amazon Professional Selling Account is required to access Product Opportunity Explorer. Data is available for Amazon.com and 5 European Stores only.
ค่าธรรมเนียมการขาย USD$1 ดอลล่าสหรัฐในช่วง 6 เดือนแรก
สำหรับการลงทะเบียน Professional Selling Plan เท่านั้น และต้องลงทะเบียนเสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนด คือ ตั้งแต่วันนี้ถึง 3 เมษายน 2024
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
Other helpful resources

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Amazon Global Selling Community

เข้าร่วม Seller Community ผ่าน Line Openchat เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับผู้ขายท่านอื่นๆ รวมถึงอัปเดทข่าวสารล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นงานอีเว้นท์ หรือ product ใหม่ๆ จาก Amazon

Amazon Service Providers

ให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการช่วยเหลือจากพาร์ทเนอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ จาก Amazon ให้คุณเข้าถึงตลาดทั่วโลกได้รวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น

เข้าร่วมสัมมนาออนไลน์กับ Amazon

เรียนรู้เกี่ยวกับการขายใน Amazon ตั้งแต่เคล็ดลับในการยื่นเอกสารยืนยันตัวตนผู้ขาย บริการ Fulfillment by Amazon ไปจนถึงเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มยอดขายบน Amazon และอีกมากมาย
เริ่มต้นขายของออนไลน์บน Amazon ได้ทันทีวันนี้
ค่าธรรมเนียมการขาย USD$1 ดอลล่าสหรัฐในช่วง 6 เดือนแรก
สำหรับการลงทะเบียน Professional Selling Plan เท่านั้น และต้องลงทะเบียนเสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนด คือ ตั้งแต่วันนี้ถึง 3 เมษายน 2024
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
© 2021, Amazon.com Services LLC.