>> Case Study
เทคนิคการคำนวณกำไร และตั้งราคา เพื่อเริ่มขายบน Amazon
“ลูกสาวผมเคยถามว่าเมื่อไรพ่อจะมีเวลามาทานข้าวเย็นกับเค้าบ้าง คำถามนี้ทำให้ผมต้องกลับมาทบทวนหาช่องทางในการสร้างรายได้ ขายออนไลน์ ที่พอให้มีช่องทางในการจัดการชีวิตได้ดีกว่าเดิม”
Jason Tay
Amazon.com seller ที่มียอดขายกว่าสิบล้านเหรียญสหรัฐ
จากคุณครูโรงเรียนประถมในสิงคโปร์สู่ Amazon Seller ที่มียอดขายกว่าสิบล้านเหรียญสหรัฐ
เจสัน เทย์ เริ่มต้นจากการเป็นครูในโรงเรียนประถม สอนวิชาภาษาอังกฤษและประวัติศาสตร์ ก่อนที่เขาจะโยกย้ายมาร่วมงานกับหน่วยงานเพื่อสังคม
เขามีความเชื่อว่าคนที่ทำงานหนักมักได้ผลตอบแทนที่ดีเสมอ แต่เขาต้องย้อนกลับมาคิดอีกครั้งเมื่อเขาไม่มีเวลาเพียงพอให้ครอบครัว จนวันหนึ่งลูกสาวของเขาได้ถามคำถามสำคัญว่า เมื่อไรพ่อจะมีเวลาได้กลับมาทางข้าวเย็นกับเธอบ้าง
สิ่งนี้ทำให้เจสันต้องเปลี่ยนความคิดในเรื่องงานของเขาอีกครั้ง
เขาได้ทำการค้นคว้าหาข้อมูลเรื่องเทรนด์และการเริ่มทำ e-commerce อย่างจริงจัง
สิ่งสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจเข้ามาขายบน Amazon คือ เขาสามารถเข้าถึงตลาดในสหรัฐได้ผ่าน Fulfillment by Amazon (FBA) ที่จะช่วยจัดการเรื่องโลจิสติกส์ต่างๆในอเมริกา ในขณะที่เขาจะมีเวลามาโฟกัสการจัดการธุรกิจหลักของเขาได้ดีขึ้น
เขามีความเชื่อว่าคนที่ทำงานหนักมักได้ผลตอบแทนที่ดีเสมอ แต่เขาต้องย้อนกลับมาคิดอีกครั้งเมื่อเขาไม่มีเวลาเพียงพอให้ครอบครัว จนวันหนึ่งลูกสาวของเขาได้ถามคำถามสำคัญว่า เมื่อไรพ่อจะมีเวลาได้กลับมาทางข้าวเย็นกับเธอบ้าง
สิ่งนี้ทำให้เจสันต้องเปลี่ยนความคิดในเรื่องงานของเขาอีกครั้ง
เขาได้ทำการค้นคว้าหาข้อมูลเรื่องเทรนด์และการเริ่มทำ e-commerce อย่างจริงจัง
สิ่งสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจเข้ามาขายบน Amazon คือ เขาสามารถเข้าถึงตลาดในสหรัฐได้ผ่าน Fulfillment by Amazon (FBA) ที่จะช่วยจัดการเรื่องโลจิสติกส์ต่างๆในอเมริกา ในขณะที่เขาจะมีเวลามาโฟกัสการจัดการธุรกิจหลักของเขาได้ดีขึ้น
ถ้าคุณขายบน Amazon คุณไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนบริษัทของคุณในอเมริกา
ไม่ต้องมี Warehouse โกดังของตัวเองที่นั่น
ไม่ต้องจ้างพนักงานเองเพื่อแพ็คออร์เดอร์ส่งลูกค้าในอเมริกา
ทั้งหมดนี้ Fulfillment by Amazon (FBA) ได้ช่วยแบ่งเบาให้คุณได้หมดแล้ว
จุดเริ่มต้นที่เจสันได้เข้ามาขายบนอเมซอน เริ่มตังแต่สามารถทำยอดขายได้หลักพันเหรียญสหรัฐ จนต่อมาเขาได้ขยับขยายและมียอดขายกว่าสิบล้านเหรียญสหรัฐจาก 3 แบรนด์บนอเมซอนที่เขาเป็นเจ้าของอยู่
เป็นเจ้าของแบรนด์ (Brand Owner) ดียังไง?
เจสันเริ่มขายจากการหาสินค้ากว่า 800 ชิ้นเพื่อซื้อมาขายไป เขาพบว่าวิธีนี้อาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด เมื่อเทียบกับการเป็น Brand Owner บน Amazon
สิทธิประโยชน์ที่เขาชอบมากๆในการเป็น Brand owner คือ การลงสินค้าและปรับแต่งหน้าร้านได้เอง ทำให้ร้านค้ามีความโดดเด่น และมีข้อได้ปรียบที่มากกว่าผ่านการลงขายใน Buy Box.
ในฐานะ brand owner เขาสามารถสร้าง Value ให้แบรนด์และสินค้าของเขาในระยะยาว ไม่เหมือนกับการที่ต้องเพิ่งพาคนอื่นในการหาสินค้ามาขายเมื่อตอนที่เขายังไม่มีแบรนด์ของตัวเอง
สิทธิประโยชน์ที่เขาชอบมากๆในการเป็น Brand owner คือ การลงสินค้าและปรับแต่งหน้าร้านได้เอง ทำให้ร้านค้ามีความโดดเด่น และมีข้อได้ปรียบที่มากกว่าผ่านการลงขายใน Buy Box.
ในฐานะ brand owner เขาสามารถสร้าง Value ให้แบรนด์และสินค้าของเขาในระยะยาว ไม่เหมือนกับการที่ต้องเพิ่งพาคนอื่นในการหาสินค้ามาขายเมื่อตอนที่เขายังไม่มีแบรนด์ของตัวเอง
อยากลองสร้างแบรนด์?
แนะนำให้คุณสมัคร Brand Registry เพื่อใช้ฟีเจอร์ต่างๆ และหากคุณมีคุณสมบัติครบถ้วน คุณจะสามารถใช้สิทธิประโยชน์มูลค่ารวมถึง US$50,000
เทคนิกการตั้งราคาสินค้าบน Amazon
การตั้งราคาเป็นส่วนสำคุณที่จะช่วยดึงดูดลูกค้า สร้างจุดยืนให้สินค้าของคุณ และ เป็นส่วนหนึ่งของการคำนวณกำไรขาดทุนและ Return on Investment (ROI) เป้าหมายของการตั้งราคาคือการหาจุดที่เหมาะสมในการสื่อสารประโยชน์สินค้าและแบรนด์ของคุณให้ลูกค้าได้รับรู้ ในขณะเดียวกัน การตั้งราคาที่ถูกต้อง ก็เป็นการสร้างกำไรให้สินค้าของคุณอย่างยั่งยืน
สำหรับผู้ขายมือใหม่ เจสันแนะนำเทคนิกการตั้งราคาต่อไปนี้
สำหรับผู้ขายมือใหม่ เจสันแนะนำเทคนิกการตั้งราคาต่อไปนี้
ตั้งราคาที่แข่งขันได้
สิ่งที่สำคัญมากๆคือคุณต้องมั่นใจว่า ราคาขายที่คุณตั้งไว้ เป็นราคาที่แข่งขันได้ เจสันแนะนำว่าให้มีการทำการสำรวจตลาดว่าสินค้าประเภทเดียวกันมีคนขายราคาเท่าไรบ้างบน Amazon เช่น สินค้าเครื่องใช้เกี่ยวกับเด็กโดยเฉพาะจะมีวิธีการตั้งราคาที่แตกต่างจากสินค้าอื่นๆ
และเมื่อคุณมีความมั่นใจว่าสินค้าของคุณมีจุดเด่นกว่าสินค้าประเภทเดียวกันอย่างไรบ้าง คุณอาจจะลองตั้งราคาสินค้าสูงกว่าสินค้าประเภทเดียวกันในตลาดเล็กน้อยเพื่อเป็นการตอบโจทย์ประโยชน์สินค้าของคุณ หรือคุณอาจลองตั้งราคาขายแบบเป็นแพ็ค แทนที่จะขายเป็นชิ้นเดี่ยวๆเมื่อคุณเห็นว่าตอบโจทย์สินค้านั้นๆของคุณ
และเมื่อคุณมีความมั่นใจว่าสินค้าของคุณมีจุดเด่นกว่าสินค้าประเภทเดียวกันอย่างไรบ้าง คุณอาจจะลองตั้งราคาสินค้าสูงกว่าสินค้าประเภทเดียวกันในตลาดเล็กน้อยเพื่อเป็นการตอบโจทย์ประโยชน์สินค้าของคุณ หรือคุณอาจลองตั้งราคาขายแบบเป็นแพ็ค แทนที่จะขายเป็นชิ้นเดี่ยวๆเมื่อคุณเห็นว่าตอบโจทย์สินค้านั้นๆของคุณ
เทคนิกการสำรวจราคาสินค้า
1. เจสันแนะนำให้คุณเข้าไปสำรวจราคาสินค้าบนเว็บไซต์ Amazon เริ่มต้นจากการพิมหาสินค้าประเภทเดียวกันใน search box ด้านบนสุดของ เว็บไซต์ Amazon.com และทำการเปรียบเทียบราคา ฟีเจอร์สินค้าที่คล้ายๆกัน
2. ใช้ Amazon Seller app เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวราคาของสินค้านั้นๆ
3. ใช้ Automate Pricing tool เพื่อตั้งราคาสินค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อขึ้นอยู่กับ market demand
4. หลังจากที่คุณได้ลงทะเบียนผู้ขาย Amazon แบบ Professional คุณสามารถเข้าไปใช้ฟีเจอร์ Product Opportunity Explorer เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณเห็นข้อมูลความต้องการของสินค้าประเภทต่างๆ และเข้าถึงสินค้าคู่แข่ง เช่น มีกี่เจ้าที่ขายสินค้าประเภทนั้นอยู่ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่เท่าไร รีวิวสินค้าเป็นอย่างไร เป็นต้น
อย่าลืมตั้งราคาเผื่อค่าใช้จ่ายต่างๆ
การตั้งราคาขายบนอเมซอน เจสันแนะนำให้รวบรวมรายละเอียดของต้นทุนต่างๆให้ครบถ้วน เช่น ค่าใช้จ่ายตั้งต้น ค่าใช้จ่ายเมื่อขายได้ และค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆ
การตั้งราคาที่เผื่อต้นทุนต่างๆเข้าไปในราคาแล้ว มีข้อที่ผู้ขายควรพิจารณาต่อไปนี้
การตั้งราคาที่เผื่อต้นทุนต่างๆเข้าไปในราคาแล้ว มีข้อที่ผู้ขายควรพิจารณาต่อไปนี้
ค่าใช้จ่ายตั้งต้น
ค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดยอดขาย
ค่าใช้แฝงจ่ายอื่นๆ ถ้ามี
• ค่าบัญชีผู้ขายบน Amazon
US$39.99
US$39.99
• ค่าต้นทุนสินค้าที่ซื้อมา
• ค่าส่งสินค้าจากประเทศต้นทางไป FBA
• ค่าจัดเก็บ FBA storage costs
• Amazon Referral Fee
• ค่า FBA fulfillment
• Agent fees
• Inspection fees
• ค่า Sample สินค้า
• ค่าจด Trademark
• Corporate compliance
• Amazon ads
• Software tools and service
providers
providers
• Deals, Coupons, Discounts,
Promotions
Promotions
*The cost to sell on Amazon depends on your selling plan, product category, fulfillment strategy and other variables. The options are flexible, and the table above illustrates costs that may not be applicable to all sellers.
คำนวณกำไร Gross Profit Margin
Gross Profit Margin เป็นตัวบอกเปอร์เซนต์การทำกำไรของสินค้าของคุณ ที่ได้มีการหักต้นทุนต่างๆในการทำแบรนด์ของคุณออกไปแล้ว
คำแนะนำ: ความเห็นส่วนตัวของคุณเจสัน เขาแนะนำว่าควรจะมี Gross Profit Margin % ไม่ต่ำกว่า 30% เพื่อเป็นการเผื่อค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นเป็นกรณีๆไป เช่น ค่าใช้จ่ายในการส่งสินค้าคืน การทำราคาโปรโมชั่น เป็นต้น
คำแนะนำ: ความเห็นส่วนตัวของคุณเจสัน เขาแนะนำว่าควรจะมี Gross Profit Margin % ไม่ต่ำกว่า 30% เพื่อเป็นการเผื่อค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นเป็นกรณีๆไป เช่น ค่าใช้จ่ายในการส่งสินค้าคืน การทำราคาโปรโมชั่น เป็นต้น
เทคนิกการคำนวณกำไร
1. หาราคาต้นทุนของสินค้า โดยการหาในเว็บไซต์ออนไลน์ หรือขอใบเสนอราคาจาก Supplier
2. บวกราคาต้นทุนสินค้ากับค่าขนส่งที่คุณต้องจ่าย จากประเทศที่ผลิตสินค้า ส่งไปที่สหรัฐอเมริกา คุณสามารถหาราคาค่าขนส่งจาก shipping เจ้าต่างๆที่ให้บริการ
3. หากยังไม่แน่ใจว่าจะใช้บริการ if Fulfillment by Amazon (FBA) หรือ จะจัดส่งเองแบบ Fulfillment by Merchant (FBM) คุณสามารถลองใช้ FBA revenue calculator เพื่อเป็นตัวช่วยในการคุนวณเพื่อตัดสินใจได้
เทคนิกสุดท้าย
คนที่อยากเริ่มขายออนไลน์หลายคนอาจจะอยู่ในช่วงของการคิดเยอะมากเกินไปจนไม่กล้าเริ่มทำอะไร ผมแนะนำว่าคุณควรเริ่มลองทำตั้งแต่วันนี้ แล้วเอา Learning มาปรับใช้ต่อไป
Note: The information contained in this article does not constitute financial advice. If you are in doubt as to the action you should take, please consult your financial or other professional adviser. In addition, the content in this article is for information only and must not be construed as a guarantee of future results. Many factors influence the demand for a seller’s products, including price fluctuations, consumer demand shifts, and sellers remain responsible for determining the products they sell and their prices.
Take your first selling steps
US$ 39.99 ต่อเดือน + ค่าธรรมเนียมการขาย
