ภาพรวมการเริ่มต้นขายสินค้าออนไลน์กับ Amazon Global Selling Thailand

การขายสินค้าออนไลน์บน Amazon

ไม่ว่าคุณจะขายสินค้าออนไลน์อยู่แล้ว หรือเป็นมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นขายสินค้าออนไลน์ ข้อมูลต่อไปนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของการขายสินค้าออนไลน์บน Amazon และช่วยให้คุณเริ่มต้นการขายรอบโลกได้อย่างราบรื่น!

เริ่มขาย คลิก

$ 39.99 ต่อเดือน + ค่าธรรมเนียมการขาย

ก่อนสมัครบัญชีผู้ขาย

1. เลือกสินค้าที่จะขายใน Amazon

ทาง Amazon เปิดให้ผู้ขายทุกรายสามารถลงขายสินค้าได้มากกว่า 30 หมวดหมู่ แต่สำหรับสินค้าบางหมวดหมู่จะต้องมีการขออนุมัติเอกสารสำคัญและสามารถลงขายได้หากผู้ขายสมัครบัญชี แผนการขายแบบมืออาชีพ (Professional Selling Plan) เพื่อความปลอดภัยในการบริโภคหรือในการใช้งานของลูกค้า

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับหมวดหมู่สินค้า

2. พิจารณาโปรไฟล์ผู้ขาย

เมื่อตัดสินใจเลือกขายสินค้าออนไลน์บน Amazon แล้ว ผู้ขายควรจะพิจารณาโปรไฟล์ของตนเองเพื่อที่จะวางกลยุทธ์ในการขายให้เหมาะสมมากที่สุด

ผู้ผลิต มีโรงงานหรือกระบวนการผลิต และผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ตนเอง
เจ้าของแบรนด์ สั่งผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของตนเองเพื่อเสนอตัวเลือกที่ไม่ซ้ำใครให้กับลูกค้า
ตัวแทนจำหน่าย ค้นหาสินค้ายอดนิยมที่มีขายในตลาดอยู่แล้ว และนำเสนอขายใน Amazon แม้จะไม่ได้เป็นผู้ผลิตหรือเจ้าของแบรนด์ของตนเอง

ผู้ขายสามารถเลือกโปรไฟล์ใดก็ได้ที่เหมาะกับธุรกิจและเป้าหมายในการขายสินค้า หากผู้ขายวางแผนที่จะขายสินค้าบน Amazon ในนามแบรนด์ของตนเอง ทางเรามีทรัพยากรและเครื่องมือมากมายที่จะอำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจของคุณ

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างแบรนด์บน Amazon

3. เลือกแผนการขายที่เหมาะสม

การสมัครบัญชีใน Amazon นั้นมีทั้งหมดสองรูปแบบ หรือที่เรียกว่า ‘แผนการขาย’ ให้เลือกคือ

(1) แผนการขายแบบบุคคลทั่วไป (Individual Selling Account) ที่จะเรียกเก็บ USD$0.99 ต่อหนึ่งหน่วยสินค้าที่ขายออก
(2) แผนการขายแบบมืออาชีพ (Professional Selling Account) ที่มีราคา $ 39.99 ต่อเดือนไม่ว่าจะขายสินค้าจำนวนเท่าใดก็ตาม

โดยที่แผนการขายแบบมืออาชีพนั้นจะมีเครื่องมืออำนวยความสะดวกและประโยชน์อื่น ๆ ที่มากกว่าแผนการขายแบบทั่วไป อย่างไรก็ตาม อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับหมวดหมู่สินค้าที่ลงขายและการจัดส่งสินค้า

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการขาย

4. สมัครบัญชีผู้ขาย

สมัครบัญชีผู้ขายบน Seller Central เว็บไซต์ที่ใช้จัดการบัญชีผู้ขายของคุณ โดยคุณสามารถสร้างบัญชีผู้ขาย Amazon ใหม่ด้วยอีเมลธุรกิจของคุณ และปฎิบัติตามขั้นตอนการสมัคร รวมทั้งเตรียมเอกสารยืนยันตัวตนทุกอย่างให้ครบถ้วน

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการสมัครบัญชีผู้ขาย

Seller Central คืออะไร?

Seller Central เป็นเว็บไซต์ที่ผู้ขายลงชื่อเข้าใช้เพื่อบริหารธุรกิจและกิจกรรมการขายบน Amazon ผู้ขายสามารถจัดการสินค้าคงคลัง กำหนดราคาสินค้า สื่อสารกับลูกค้า ตรวจสอบสถานะบัญชี ติดต่อฝ่ายสนับสนุนผู้ขาย และเพิ่มสินค้าใหม่

เริ่มลงรายการสินค้า

1. ก่อนลงรายการสินค้า

ก่อนที่จะลงรายการสินค้าใน Amazon โปรดตรวจสอบให้แน่ใจอีกครั้งว่าผู้ขายสามารถขาย หมวดหมู่สินค้า นั้นได้หรือไม่ ทั้งในกรณีหมวดหมู่สินค้าที่สามารถขายได้ภายใต้แผนการขายแบบมืออาชีพ หมวดหมู่สินค้าที่ต้องขออนุมัติ และสินค้าที่มีลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้าหรือสิทธิบัตร

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการขออนุญาตลงขายสินค้า

2. ลงรายการสินค้า

ลงรายการสินค้าของคุณ โดยการเพิ่มข้อมูลสินค้าบน Amazon ครั้งละหนึ่งรายการ หรือจะเลือกเพิ่มที่ละหลายรายการก็ได้ หากคุณเลือกแผนการขายแบบมืออาชีพ

(1) ลงสินค้าใหม่ที่ยังไม่เคยมีขายบน Amazon (New ASIN)
ระบุ UPC/EAN และ SKU
(2) ลงสินค้าที่มีขายอยู่แล้วบน Amazon (Matched ASIN)
ระบุจำนวนสินค้าที่ต้องการขาย สภาพของสินค้า และวิธีการจัดส่ง

หลังจากที่ลงรายการสินค้าแล้ว ผู้ขายจะต้องใส่รายละเอียดสินค้า เช่น รูปภาพ ชื่อ คำอธิบาย ลักษณะสินค้า ประโยชน์ของสินค้า ลงในหน้ารายละเอียด (Detail Page)

เรียนรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการลงรายการสินค้าอย่างละเอียด

ดึงดูดความสนใจลูกค้า

เมื่อสินค้าของผู้ขายอยู่ในหน้าสินค้าของ Amazon มีหลายสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อดึงดูดลูกค้าของ Amazonให้เลือกซื้อสินค้าของคุณ

ดูวีดีโอ Amazon Flywheel ที่อธิบายวิธีการสร้างแรงผลักดันเพื่อเติบโตธุรกิจของคุณ

1. จัดส่งสินค้าอย่างรวดเร็ว

หนึ่งในปัจจัยสำคัญในการดึงดูดลูกค้าคือประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า ยิ่งได้รับสินค้าในระยะเวลาไม่นานเกินไป มีบริการดูแลลูกค้าที่ดี และมีการบริการส่งสินค้าคืน ลูกค้าย่อมต้องการสั่งซื้ออย่างแน่นอน

ผู้ขายจะถูกแจ้งให้ทราบเมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อสินค้าผ่าน Seller Central โดยผู้ขายสามารถเลือกใช้บริการ Fulfillment by Amazon (FBA) โดยที่ Amazon จะบริการเตรียมบรรจุหีบห่อ จัดส่ง บริการลูกค้า รวมถึงจัดการในกรณีลูกค้าเปลี่ยนหรือคืนสินค้า ผู้ขายสามารถเลือกให้ Amazon ดูแลเรื่องการจัดส่งสินค้าโดย FBA หรือสามารถจัดการส่งสินค้าให้ลูกค้าด้วยตัวเองผ่าน Merchant Fulfilled Network (MFN)

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ Fulfillment by Amazon

2. โฆษณาสินค้าเพื่อเพิ่มยอดขาย

เพิ่มโอกาสให้รายการสินค้าบน Amazon ของคุณ เข้าถึงและถูกเห็นโดยลูกค้าหลายร้อยล้านคนมากยิ่งขึ้น ด้วยการโฆษณาในหน้าผลการค้นหา หรือรายละเอียดสินค้า โดยใช้เครื่องมือ Sponsored Product โฆษณาผ่านคีย์เวิร์ดสำคัญ หรือใช้เครื่องมืออื่นๆ เช่น Promotion, Deal, และ Coupon ที่จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อสินค้าของลูกค้าให้เป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือโฆษณาใน Amazon