How to Boost Amazon Listing?

วิธียกระดับรายการสินค้าบน Amazon เพื่อกระตุ้นยอดขายออนไลน์: กลยุทธ์ 9 ข้อ

ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ในร้านค้า Amazon หรือมีแค็ตตาล็อกเตรียมไว้พร้อมแล้ว คุณก็สามารถยกระดับรายการสินค้าและกระตุ้นยอดขายของ Amazon ให้สูงขึ้นได้ด้วยเทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพที่เราจะพูดถึงกันในโพสต์นี้

นอกจากนี้ เราจะสำรวจเคล็ดลับในการปรับปรุงการมีส่วนร่วมของลูกค้า รวมถึงวิธีอื่นๆ ในการทำให้สินค้าได้รับการแสดงผลต่อผู้ซื้อจำนวนมากขึ้น
1. เพิ่มประสิทธิภาพรายการสินค้าเพื่อให้ติดอันดับในผลการค้นหา
การเพิ่มประสิทธิภาพรายการสินค้าของ Amazon อาจฟังดูทำได้ยาก แต่คุณสามารถเลือกดำเนินการได้หลายวิธี และเมื่อคุณเริ่มเพิ่มประสิทธิภาพแล้ว ผลตอบแทนที่ได้ในการขายออนไลน์ก็อาจมีมากกว่าหนึ่งด้าน
อันดับแรก คุณสามารถช่วยให้ลูกค้าค้นพบสินค้าและทำการตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น โดยมีข้อมูลสนับสนุนว่าสามารถทำได้จากการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับส่วนต่างๆ ของรายการสินค้า เช่น ชื่อและคำบรรยายสินค้า ให้ลองนึกถึงอุตสาหกรรมและตลาดเฉพาะกลุ่มของคุณ จากนั้นจึงทำกาวิจัยกลุ่มเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น ลูกค้าชอบคลิกที่ชื่อสั้นๆ ที่เรียบง่ายและตรงประเด็นมากกว่า หรือว่าลูกค้าจะสั่งซื้อมากกว่าหากคุณใส่คำที่แสดงรายละเอียดลงไปด้วย เคล็ดลับส่วนหนึ่งมีดังนี้:

* แม้ว่ารายการสินค้าของ Amazon จะกำหนดขีดจำกัดอักขระชื่อสินค้าไว้ที่ 200 ตัวอักษร แต่เราขอแนะนำให้ชื่อสินค้าของคุณมีความยาวไม่เกิน 80 ตัวอักษร
* ขีดจำกัดอักขระคำบรรยายสินค้าของ Amazon จะแตกต่างกันไปตามหมวดหมู่สินค้า ดังนั้นขอให้คุณตรวจสอบคำแนะนำเฉพาะหมวดหมู่
* ทั้งนี้ขอให้คุณพยายามระบุชื่อและคำบรรยายที่ชัดเจนและให้ข้อมูลครบถ้วน ไม่ว่าสินค้าจะอยู่ในหมวดหมู่ใดก็ตาม

หากต้องการทราบว่าเนื้อหาใดทำงานได้ดีที่สุด ให้ทำการทดสอบรูปแบบขององค์ประกอบต่างๆ ในหน้าเว็บ (Split Test) เพื่อดูว่าเนื้อหาใดที่สร้างคอนเวอร์ชัน ใช้เครื่องมือทดสอบองค์ประกอบ จัดการการทดลองของคุณ ของ Amazon เพื่อเปรียบเทียบเนื้อหาสองเวอร์ชัน เช่น ตัวเลือกชื่อสินค้าหรือตัวเลือกภาพถ่าย
นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้กลยุทธ์การตลาดในการปรับแต่งให้เหมาะสมกับเครื่องมือค้นหา (SEO) เพื่อช่วยให้สินค้ามีอันดับที่ดีขึ้นในผลการค้นหาได้อีกด้วย เมื่อใช้ SEO ให้คุณใส่คีย์เวิร์ดลงในรายละเอียดสินค้าอย่างมีกลยุทธ์ เพื่อช่วยให้รายการสินค้าจับคู่กับคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกันและทำให้ลูกค้ามีข้อมูลที่ตนต้องการ ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังส่งออกสินค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ลูกค้าก็อาจต้องการทราบเกี่ยวกับอายุการใช้งานของแบตเตอรี่หรือตัวเลือกสีเคส เป็นต้น ใส่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องในลักษณะนี้โดยอิงตามความต้องการของลูกค้าและคุณสมบัติเฉพาะตัวของสินค้าที่คุณนำเสนอ
เมื่อเป็นเรื่องของการโฆษณาขายสินค้า การขายออนไลน์อีคอมเมิร์ซนั้นมีข้อดีและทางเลือกอันเป็นเอกลักษณ์ คุณสามารถสำรวจโฆษณาแบบต่างๆ ที่พร้อมใช้งานสำหรับผู้ขายของ Amazon โดยเฉพาะ เช่น

* Sponsored Products – โฆษณารูปแบบนี้คือแคมเปญโฆษณาแบบต้นทุนต่อคลิก (CPC) ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณาจนกว่าจะมีใครสักคนคลิกที่โฆษณา เป็นการสร้างแคมเปญเพื่อโฆษณารายการสินค้าที่เฉพาะเจาะจงในหน้าผลการค้นหาสินค้าบน Amazon และในหน้ารายละเอียดสินค้า คุณสามารถเลือกกำหนดเป้าหมายคีย์เวิร์ดที่เฉพาะเจาะจง หรือใช้สินค้าที่คล้ายคลึงกันเพื่อจับคู่โฆษณากับการค้นหาของลูกค้าได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกใช้การกำหนดเป้าหมายอัตโนมัติเพื่อให้ Amazon จับคู่โฆษณากับคำค้นหาและสินค้าที่เกี่ยวข้องได้เช่นกัน ภายในปีแรกของการใช้งานกลยุทธ์การตลาดแคมเปญ Sponsored Products สินค้าจะมีหน่วยสินค้าที่ได้รับการสั่งซื้อรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นถึง 50% โดยเฉลี่ย
* Sponsored Brands – โฆษณารูปแบบนี้คล้ายคลึงกับ Sponsored Products โดยพร้อมใช้งานสำหรับผู้ขายของ Amazon ที่ลงทะเบียนใน Brand Registry โฆษณารายการสินค้าแบบต้นทุนต่อคลิกนี้ช่วยให้คุณแสดงโลโก้แบรนด์ พาดหัวแบบกำหนดเอง และสินค้าหลายรายการจากแบรนด์ของคุณได้ คุณสามารถใช้ประโยชน์จาก Sponsored Brands เพื่อเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ของคุณในภาพรวมและกระตุ้นยอดขายออนไลน์ที่เฉพาะเจาะจงไป ในขณะเดียวกัน โฆษณาแบบ Sponsored Brands ยังเปิดโอกาสให้คุณใช้วิดีโอเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้ ซึ่งช่วยให้สินค้าโดดเด่นในผลการค้นหาสินค้าอีกด้วย
* Sponsored Display – แคมเปญประเภทนี้คือโฆษณาดิจิทัลที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั้งในร้านค้า Amazon และเว็บไซต์ รวมถึงแอปอื่นๆ ซึ่งสามารถใช้ได้หากคุณมีคุณสมบัติตามเกณฑ์การมีสิทธิ์ โดย Sponsored Display จะดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องโดยใช้สื่อที่มีเนื้อหาครบถ้วนและสัญญาณเชิงบริบท แทนที่จะพึ่งพาคีย์เวิร์ด


นอกจากนี้ คุณยังสามารถเรียกใช้แคมเปญของคุณเองและรับโบนัสการแนะนำแบรนด์ (โดยเฉลี่ยคือ 10% ของราคาขาย) สำหรับการดึงดูดการเข้าชมมายังรายการสินค้าของ Amazon ได้เช่นกัน โดยสามารถลงทะเบียนเข้าร่วม Brand Registry และสร้างบัญชี Amazon Ads เพื่อเริ่มต้นใช้งาน Amazon Attribution
3. นำเสนอส่วนลดเพื่อดึงดูดการซื้อ
การส่งเสริมการขายของออนไลน์โดยการใช้โฆษณาส่วนลดสำหรับสินค้า คูปอง Amazon ช่วยให้คุณนำเสนอส่วนลดเป็นดอลลาร์หรือเปอร์เซ็นต์ให้กับลูกค้าโดยการแสดงป้ายคูปองในผลการค้นหาของ Amazon และในหน้าคูปอง Amazon
นอกจากนี้ คุณยังสามารถขยายการเข้าถึงด้วยรหัสโปรโมชั่นโซเชียลมีเดียของ Amazon เพื่อนำเสนอส่วนลดเป็นเปอร์เซ็นต์ให้กับลูกค้าสำหรับสินค้าที่มีสิทธิ์ได้อีกด้วย รหัสโปรโมชั่นคือ URL ที่สามารถแชร์ได้ ซึ่งคุณสามารถใช้ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียและช่องทางต่างๆ อย่างเนื้อหาสำหรับอินฟลูเอนเซอร์ เป็นต้น นำเสนอส่วนลดเพื่อช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ หรือกระตุ้นให้ลูกค้าเดิมกลับมาเลือกซื้อสินค้าของคุณอีกครั้ง
4. รับรีวิวที่มีคุณภาพ
ในการขายออนไลน์รีวิวสินค้าเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสร้างความไว้วางใจกับลูกค้า ตอบข้อสงสัย และกระตุ้นการซื้อ แต่การได้รับรีวิวสินค้าที่มีคุณภาพสูงก็อาจเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสินค้าออกใหม่ คุณสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรม Amazon Vine เพื่อมอบสินค้าฟรีให้กับรีวิวเวอร์ที่มีอิทธิพลของ Amazon เพื่อสะสมรีวิวที่เป็นของจริง เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า ตลอดจนแนะนำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์และสินค้าใหม่ๆในธุรกิของคุณ
5. ให้ความสำคัญกับการจัดเก็บและกระจายสินค้ารวมถึงการจัดส่ง
ตัวเลือกการจัดส่งสำหรับธุรกิจออนไลน์อาจมีส่วนในการตัดสินใจของลูกค้าว่าจะซื้อหรือไม่ โดยผลการศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า 56% ของรถเข็นสินค้าที่ถูกละทิ้งนั้นเกี่ยวข้องกับข้อกังวลเรื่องการจัดส่ง ลูกค้า Amazon สามารถค้นหาสินค้าและเรียงลำดับผลลัพธ์ตามความเร็วในการจัดส่งได้ ดังนั้น ขอให้คุณนำเสนอการจัดส่งด้วยความเร็วที่สูงที่สุดในราคาที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อช่วยให้รายการสินค้าโดดเด่นกว่าคู่แข่งและตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มองหาวันที่จัดส่งที่เร็วที่สุดและดีลที่ดีที่สุดจึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจ
คุณสามารถจัดเก็บและกระจายสินค้าด้วยตนเอง หรือลงทะเบียนสินค้าในโปรแกรม Fulfillment by Amazon (FBA) เพื่อให้มีสิทธิ์รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ อย่างการจัดส่งสินค้าฟรีภายในสองวันผ่าน Amazon Prime เป็นต้น เมื่อใช้ FBA คุณจะต้องจัดส่งสินค้าไปยัง FC ของ Amazon เพื่อจัดเก็บ จากนั้น Amazon จะบรรจุหีบห่อและจัดส่งสินค้าตามคำสั่งซื้อ ทั้งยังสามารถดูแลเรื่องการบริการลูกค้าหรือการส่งคืนสินค้าให้คุณได้
6. คอยดูแลให้มีสินค้าในสต็อกเสมอ
การดูแลให้มีสินค้าในคลังเสมอเพื่อตอบสนองความต้องการสามารถช่วยให้คุณยกระดับและรักษารายการสินค้าของ Amazon ที่ประสบความสำเร็จได้ โดยการดึงดูดความสนใจของลูกค้าจะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อคุณมีหน่วยสินค้าพร้อมให้ลูกค้าซื้อได้เท่านั้น ดังนั้นขอให้คุณคอยควบคุมการวางแผนสินค้าคงคลังในของคุณอยู่เสมอ
หากคุณขายในหลายช่องทาง ให้เชื่อมต่อข้อมูลสินค้าคงคลังเพื่อหลีกเลี่ยงการหมดสต็อก นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้เครื่องมือเติมสต็อกของ FBA สำหรับการวางแผนสินค้าคงคลังได้เช่นกัน เครื่องมือนี้จะพิจารณาประวัติการขาย การคาดการณ์อุปสงค์ ฤดูกาลของสินค้า และการตั้งค่าการเติมสินค้าเพื่อให้คำแนะนำโดยเฉพาะ
7. เข้าถึงลูกค้าในภูมิภาคต่างๆ
หากคุณประจำอยู่ในสหรัฐอเมริกา คุณสามารถสร้างข้อเสนอในร้านค้า Amazon ในเม็กซิโกและแคนาดาได้โดยใช้ Remote Fulfillment with FBA เมื่อลูกค้าสั่งซื้อ Amazon สามารถดำเนินการตามคำสั่งซื้อได้โดยใช้สินค้าคงคลังที่คุณจัดส่งไปให้ FC ของสหรัฐฯ จัดเก็บไว้ คุณสามารถเริ่มต้นด้วยสินค้าคงคลังที่คุณใช้สำหรับ FBA อยู่แล้ว หรือจะลงทะเบียนสินค้าใหม่และเริ่มส่งออกไปยัง Amazon ก็ได้เช่นกัน
8. ปรับปรุงราคาเพื่อเพิ่มยอดคลิก
คุณควรดูแลให้ราคาสินค้าของคุณแข่งขันกับเจ้าอื่นได้เพื่อช่วยให้ธุรกิจเติบโต เครื่องมือการกำหนดราคาอัตโนมัติของ Amazon เป็นกลยุทธ์การตลาดในการกำหนดราคาที่ช่วยให้คุณปรับราคาสินค้าได้โดยอัตโนมัติเพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์ หรือแม้แต่การกำหนดราคาของข้อเสนอพิเศษ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถสร้างกฎเพื่อดูแลให้สินค้ามีราคาต่ำกว่าราคาปัจจุบันของข้อเสนอพิเศษอยู่ $0.10 เสมอ หรือให้มีราคาสูงกว่าราคาต่ำสุดอยู่ $1.00 เสมอสำหรับสินค้าเดียวกันที่ใช้ FC เดียวกัน
9. ยกระดับประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้าด้วย A+ Content
คุณสามารถเพิ่ม A+ Content ลงในรายการสินค้าเพื่อแสดงคุณสมบัติของสินค้า เรื่องราวของแบรนด์ และข้อมูลอื่นๆ อย่างน่าสนใจ ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าคลิกได้ โดย A+ Content จะปรากฏในหน้ารายละเอียดสินค้าและมีโมดูลสำหรับข้อความ Rich Text, รูปภาพ แผนภูมิเปรียบเทียบ และอื่นๆ กระตุ้นยอดขายของออนไลน์โดยการเพิ่มเนื้อหาที่มีแบรนด์ วิดีโอ และคุณสมบัติอื่นๆ ที่น่าดึงดูดใจเพื่อแสดงสินค้าขณะใช้งานจริง

กระตุ้นยอดขายด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพรายการสินค้าของ Amazon

เมื่อคุณได้สร้างหน้าร้านบน Amazon และสร้างรายการสินค้าเรียบร้อยแล้ว ขอให้พิจารณากลยุทธ์พื่อการเติบโตของธุรกิจ คุณสามารถเริ่มต้นด้วยการปรับแก้ชื่อสินค้าและคำบรรยายสินค้า ลองใช้โฆษณาอีคอมเมิร์ซรูปแบบต่างๆ และใช้เครื่องมืออย่าง MYE เพื่อติดตามยอดขายและดูว่าวิธีใดที่ใช้ได้ผล ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของ Amazon เช่น การกำหนดราคาอัตโนมัติและ A+ Content เพื่อดูว่าสิ่งใดเหมาะสมกับธุรกิจออนไลน์ของคุณมากที่สุด

รวม Case Study ที่เป็นประโยชน์

Listing and Branding

Virtual Bundle

Manage Your Customer Experience

Manage Your Experiment

คำถามที่พบบ่อย: วิธียกระดับรายการสินค้าบน Amazon

ฉันจะยกระดับรายการสินค้าในการขายออนไลน์บน Amazon ได้อย่างไร?
วิธีที่ดีที่สุดในการยกระดับรายการสินค้าบน Amazon นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทของสินค้าที่คุณกำลังขายและเป้าหมายทางธุรกิจของคุณ แต่โดยทั่วไปแล้ว การยกระดับรายการสินค้าบน Amazon และกระตุ้นการเติบโตของยอดขายสามารถทำได้หลายวิธี อาทิ

* การเพิ่มประสิทธิภาพรายการสินค้าโดยใช้ SEO, การทดสอบองค์ประกอบ และ A+ Content
* การโฆษณารายการสินค้าด้วยโฆษณาดิจิทัลอย่าง Sponsored Products และ Sponsored Brands
* การดำเนินแคมเปญการตลาดและการใช้ Amazon Attribution เพื่อกระตุ้นการเข้าชม
* การสร้างหลักฐานทางสังคมในรูปแบบของรีวิว Amazon Vine
* การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าต่างๆ ทั่วโลก

คุณยังสามารถมุ่งเน้นกลยุทธ์วิธีอื่นๆ ในการปรับปรุงประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้าและตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการขายออนไลน์ได้เช่นกัน อาทิ การให้บริการจัดส่งฟรีที่รวดเร็ว การทดลองเกี่ยวกับราคา และการจัดการสินค้าคงคลังเพื่อเพิ่มโอกาสที่สินค้าของคุณจะได้อยู่ในตำแหน่งข้อเสนอพิเศษ
ทำไมถึงต้องขายบน Amazon?
เพิ่มโอกาสในเข้าถึงลูกค้าหลายร้อยล้านคนทั่วโลกบนเว็บไซต์ Amazon รวมทั้งการเริ่มต้นกระบวนการขายบน Amazon สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่คุณจะตั้งเว็บไซต์ธุรกิจหรือร้านค้าจริง
การเพิ่มประสิทธิภาพรายการสินค้าของ Amazon คืออะไร?
การเพิ่มประสิทธิภาพรายการสินค้าคือกระบวนการของการแก้ไขและดูแลรายละเอียดการลงรายการสินค้าเพื่อบรรยายและแสดงสินค้าให้ดีที่สุด การเพิ่มประสิทธิภาพรายการสินค้าจะช่วยให้รายการสินค้าปรากฏในตำแหน่งที่ดีขึ้นในผลการค้นหา และสามารถช่วยเพิ่มคอนเวอร์ชันได้โดยการแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับข้อดีของสินค้าให้ลูกค้าทราบ
A+ Content ช่วยเพิ่มยอดขายของออนไลน์ในร้านค้า Amazon ได้หรือไม่?
ข้อมูลภายในของ Amazon แสดงให้เห็นว่าการเพิ่ม A+ Content ลงในรายการสินค้าของคุณสามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้ 5.6% โดยเฉลี่ย
โฆษณาแบบ Sponsored Products ของ Amazon จะปรากฏที่ใด?
โฆษณาแบบ Sponsored Products ของ Amazon สามารถปรากฏได้หลายตำแหน่ง โดยขึ้นอยู่กับประเภทโฆษณาที่เฉพาะเจาะจงและกลยุทธ์การกำหนดเป้าหมายที่คุณเลือกใช้ โฆษณาแบบ Sponsored Products สามารถปรากฏภายในหน้าผลการเลือกซื้อสินค้าและในหน้ารายละเอียดสินค้า โฆษณาแบบ Sponsored Brands จะปรากฏในหน้าผลการเลือกซื้อสินค้า ส่วนโฆษณาแบบ Sponsored Display สามารถปรากฏได้หลายตำแหน่งทั้งในและนอกร้านค้า Amazon
ฉันจะตั้งค่าการกำหนดราคาอัตโนมัติในร้านค้า Amazon ได้อย่างไร?
หากต้องการตั้งค่าการกำหนดราคาอัตโนมัติให้กับรายการสินค้า Amazon อันดับแรก คุณจะต้องเลือกกฎการกำหนดราคาที่คุณต้องการระบุสินค้า ไม่ว่าจะเป็นกฎที่กำหนดไว้ล่วงหน้า หรือกฎการกำหนดราคาแบบพิเศษที่คุณสร้างขึ้นเอง จากนั้น คุณจะต้องกำหนดช่วงราคาต่ำสุดและสูงสุดเพื่อให้ราคาของคุณอยู่ในขอบเขตนี้ แล้วจึงเลือกสินค้าที่คุณต้องการกำหนดราคาใหม่และใส่ไว้ภายใต้กฎดังกล่าว
เริ่มต้นขายสินค้าออนไลน์
ใน Amazon วันนี้!
นำเสนอสินค้าของคุณให้กับลูกค้านับล้านที่ค้นหา Amazon.com ในทุก ๆ วัน
ค่าธรรมเนียมการขาย USD$1 ดอลล่าสหรัฐในช่วง 6 เดือนแรก
สำหรับการลงทะเบียน Professional Selling Plan เท่านั้น และต้องลงทะเบียนเสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนด คือ ตั้งแต่วันนี้ถึง 3 เมษายน 2024
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
© 2021, Amazon.com Services LLC.