Blog : [E-commerce guide]

ขายของออนไลน์ดีไหม? 10 คำถามที่ต้องตอบ ก่อนทำธุรกิจบน Amazon

1. คุณอยากขายอะไร

สิ่งแรกที่ควรตัดสินใจเมื่อเริ่มทำธุรกิจออนไลน์ คือ คุณอยากขายอะไร เพราะที่ Amazon มีสินค้าหลากหลายประเภทให้คุณได้เลือกขาย สามารถตรวจสอบได้จากหน้า Amazon Best Sellers (อัปเดตทุกชั่วโมง) เพื่อดูว่ามีสินค้าไหนขายดีบน Amazon.com บ้าง คุณควรคุ้นเคยหรือชื่นชอบในประเภทสินค้าที่คุณอยากขาย หรืออีกทางเลือกนึง คือ ลองค้นคีย์เวิร์ดดูว่าสินค้าไหนกำลังเป็นที่ต้องการแต่ขาดตลาด และคว้าโอกาสไว้

เคล็ดลับที่ควรรู้: การขายบน Amazon จะได้ผลดีกับธุรกิจที่มีสินค้าไม่เหมือนใคร ดังนั้น ลองนำสินค้าที่คุณมีอยู่แล้วและนำมาปรับให้มีความพิเศษกว่าเดิมดู
ขายของออนไลน์

2. ใครจะผลิตสินค้าให้กับคุณ

การเลือกผู้ผลิตสินค้าสำหรับธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากธุรกิจใหม่มักมีออเดอร์น้อยในช่วงแรก จึงควรสั่งผลิตสินค้าให้มีจำนวนน้อยตาม เพื่อทดสอบตลาด และอย่าทุ่มเงินลงทุนทั้งหมดไปกับขายการล็อตแรกโดยที่ยังไม่รู้ว่าจะขายได้จริงไหม

เคล็ดลับที่ควรรู้: เมื่อเริ่มต้นทำธุรกิจ หมั่นถามคำถามกับผู้ผลิตให้มาก เก็บให้หมดทุกรายละเอียด อย่าคิดเองเออเองไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม และควรหาผู้ผลิตที่พร้อมตอบทุกข้อสงสัย

3. คุณอยากสร้างธุรกิจแบบไหน

กลับสู่จุดเริ่มต้นก่อน คิดถึงโมเดลธุรกิจต่าง ๆ และพิจารณาว่าคุณอยากสร้างธุรกิจแบบไหน แต่ละโมเดลจะมีวิธีการจัดหาสินค้าที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ผู้ทำธุรกิจขายต่อ (Reseller) ก็จะมีวิธีทำธุรกิจที่ต่างกับผู้ขายที่มีแบรนด์เป็นของตัวเอง

เคล็ดลับที่ควรรู้: ข้อนี้ไม่มีคำตอบที่ถูกต้องตายตัว ผู้ขายทั้งสองประเภทสามารถประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน

4. คุณอยากทำ Packaging แบบไหน

ผู้ขายหลายคนมักเริ่มจากการคิดถึง Packaging (บรรจุภัณฑ์) เป็นอย่างแรกเมื่อเริ่มทำธุรกิจ แต่แท้จริงแล้ว สิ่งที่คุณควรทำความเข้าใจ คือ ดีไซน์ของ Packaging ควรเรียบง่ายและทนทาน โดยใช้วัสดุที่หาได้ง่ายแถวโรงงานผู้ผลิตสินค้าของคุณ อีกนัยหนึ่งก็คือ ยิ่งขนส่ง Packaging ไปที่โรงงานผู้ผลิตได้ง่าย คุณก็จะยิ่งประหยัดเวลาและค่าขนส่งได้มากกว่าเดิม การทำ Packaging ที่ยั่งยืนก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และมีแนวโน้มที่ลูกค้าจะชอบ การมี Packaging ในขนาดที่พอดีและรีไซเคิลได้ก็จะช่วยลดขยะเช่นกัน

เคล็ดลับที่ควรรู้: อย่าทุ่มเงินและเวลาจนเกินไปกับการทำ Packaging และดีไซน์ในระยะเริ่มต้น เพราะนี่ไม่ใช่การค้าปลีก ลูกค้าที่ซื้อของคุณจะถูกดึงดูดด้วยคุณสมบัติและหน้าตาสินค้ามากกว่าตัว Packaging

5. คุณจะบริหารและจัดการคลังสินค้าอย่างไร

การบริการและจัดการคลังสินค้ามีอยู่ไม่กี่วิธี วิธีแรกคือการใช้บ้านของคุณเป็นสถานที่จัดการการแพ็กสินค้าและส่งออกด้วยตัวเอง แต่ถ้าคุณไม่อยากทำเองก็สามารถจ้างได้ หรือจะใช้บริการ Fulfillment by Amazon ที่จะช่วยคุณทั้งในเรื่องของคลังสินค้า แพ็กสินค้า ส่งออกสินค้าและการเปลี่ยนหรือคืนสินค้า รวมไปถึงบริการ Customer Service อีกด้วย

เคล็ดลับที่ควรรู้: การทำ Dropshipping อาจเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะโมเดลธุรกิจของ Amazon นั้นให้คุณมีอำนาจควบคุมคุณภาพสินค้าและคลังสินค้าของคุณ การทำ Dropshipping จึงอาจเกิดข้อผิดพลาดได้หลายอย่างเพราะต้องพึ่งพาโรงงานในการบริการและจัดการสินค้า แน่นอนว่าการทำ Dropshipping เป็นโมเดลธุรกิจที่ง่ายและต้นทุนต่ำกว่า แต่กำไรก็น้อยกว่าเช่นกัน และอาจประสบความสำเร็จได้ยากถ้าคุณอยากได้กำไรเยอะ
Fulfillment by Amazon

6. การจัดการคลังสินค้าจากโรงงานสู่โกดัง

มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อต้องจัดส่งสินค้า จะขนส่งทางทะเล ทางอากาศ หรือขนส่งต่างประเทศดี การตัดสินใจว่าจะใช้การจัดส่งวิธีไหนนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณ น้ำหนัก และขนาดสินค้าของคุณ

เคล็ดลับที่ควรรู้: การจัดส่งสินค้าน้ำหนักไม่เกิน 99 กิโลกรัม สามารถใช้ FedEx/DHL ได้ แต่ถ้าถึง 100 กิโลกรัมหรือมากกว่านั้นก็ใช้การขนส่งทางอากาศ ผู้ขายหลายคนที่ย้ายคลังสินค้าไปไว้ในพาเลทหรือตู้คอนเทนเนอร์ก็สามารถใช้การขนส่งทางทะเลได้ อาจใช้เวลาหลายเดือนหน่อย แต่ก็มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า

7. สินค้าของคุณจำเป็นต้องมีการอนุมัติเป็นพิเศษหรือมีใบอนุญาตไหม

ก่อนจะลงทุนหรือสั่งสินค้าล็อตแรกเข้ามาขาย เช็คให้ชัวร์ว่าจำเป็นต้องมีการอนุมัติอะไรหรือไม่ ไม่ใช่แค่กับ Amazon เท่านั้น แต่ควรรวมถึงหน่วยงานรัฐและฝ่ายศุลกากรต่างประเทศด้วย

8. คุณจะตั้งราคาสินค้าอย่างไร

การตั้งราคาสินค้าไม่ได้มีสูตรตายตัว และขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากทำธุรกิจอย่างไรจริง ๆ มีกลยุทธ์มากมายที่คุณสามารถนำมาเป็นตัวตั้งราคาได้ เช่น ตั้งราคาแบบบวกกำไร ตั้งแบบประเมินจากตลาด หรือตั้งแบบประเมินคุณค่า ในฐานะเจ้าของแบรนด์ คุณสามารถวิเคราะห์ตลาดและปัจจัยต้นทุนการผลิต จากนั้นก็กำหนดจากสิ่งที่คุณเชื่อว่าลูกค้าจะยอมจ่ายที่ราคาเท่าไหร่ การทำ A/B Testing ก็เป็นวิธีที่ดีในการกำหนดราคาที่ดีที่สุดให้กับสินค้าเช่นกัน

เคล็ดลับที่ควรรู้: แม้แต่สินค้าที่มีกำไรเหมาะสมก็สามารถขายได้บน Amazon

9. คุณจะระดมทุนทำธุรกิจ Startup นี้อย่างไร

กรณีทำ Startup การระดมทุนคือสิ่งสำคัญที่สุดที่คุณต้องพิจารณาตั้งแต่เนิ่น ๆ มาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรที่ต้องคิดถึงบ้าง

● งบประมาณ - ต้องมีเงินทุนทำธุรกิจมากแค่ไหน
● คลังสินค้า - สามารถสั่งซื้อสินค้าได้มากแค่ไหน
● ระยะเวลา - จะยอมใช้เวลามากน้อยแค่ไหนในการทดสอบสินค้า
● เงินเดือน - ตัวคุณเองต้องการรับเงินเดือนหรือไม่

เคล็ดลับที่ควรรู้: พยายามสร้าง Runway (ระยะเวลาที่ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ก่อนเงินหมด) ให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่าเสียกำลังใจถ้าสินค้าตัวแรก (หรือตัวที่สอง) ไม่ได้ผลตามที่คุณต้องการ ควรระมัดระวังในการใช้เงินทุนและอยู่เพื่อสู้กับวันต่อ ๆ ไปให้ได้

10. ใจพร้อมรึเปล่า

“ใจพร้อมรึเปล่า” เป็นประเด็นที่น้อยคนมักจะพูดถึงก่อนเริ่มทำธุรกิจ หากคุณอยากรวยเร็วหรือมองหาทางลัดสู่ความสำเร็จ ไม่มีอะไรที่การันตีได้หรอกว่าจะเกิดขึ้น เมื่อต้องบริหารธุรกิจ Ecommerce คุณต้องคิดหาหนทางด้วยตัวเอง เปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดและปรับไปเรื่อย ๆ หมั่นเตือนตัวเองว่าคุณกำลังเดินอยู่บนเส้นทางนี้ด้วยใจที่เปิดกว้าง มันจะสนุกหรือจะมีผลตอบแทนคืนมาก็ขึ้นอยู่กับคุณ

เคล็ดลับที่ควรรู้: ลองพูดคุยกับสมาชิกในครอบครัวหรือที่ปรึกษาที่คุณเชื่อใจก่อนเริ่มทำธุรกิจ การมีคนคอยซัพพอร์ตถือเป็นเรื่องที่ดีเมื่อต้องเดินในเส้นทางสายนี้

อยากอ่านเทคนิคเพิ่มเติมจากผู้ขาย Amazon ที่ประสบความสำเร็จอีก? คลิกเพื่ออ่านเคล็ดลับการขายมากมายได้เลย!
© 2021, Amazon.com Services LLC.