Amazon ยุโรปมีร้านค้าในยุโรปอยู่ 6 ประเทศ ได้แก่ Amazon.de (เยอรมัน), Amazon.co.uk (สหราชอาณาจักร), Amazon.fr (ฝรั่งเศส), Amazon.it (อิตาลี), Amazon.es (สเปน), และ Amazon.nl (เนเธอร์แลนด์) เมื่อสิ้นปี 2020¹ มีการคาดการณ์ว่ายอดขาย Ecommerce จะมีมูลค่าสูงกว่า 370 ล้านดอลลาร์ในยุโรป ซึ่งโตขึ้นกว่า 8.8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และการมี European Unified Account จะทำให้คุณสามารถขายของข้ามประเทศภายใต้ Amazon ยุโรปได้โดยใช้แค่บัญชีเดียว ทำให้การลิสต์รายการสินค้า การกำหนดราคา การส่งออกสินค้า และการจ่ายเงินง่ายขึ้น

Amazon มีระบบโลจิสติกส์ที่ทันสมัยและเครื่องมืออันมีประสิทธิภาพที่ช่วยให้คุณปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ภาษีและสินค้าได้อย่างถูกต้อง พร้อมสร้างรายการสินค้าได้มากกว่า 30 หมวดหมู่

มาดูกันว่าผู้ขายบน Amazon สร้างเรื่องราวความสำเร็จผ่านตลาดนี้ได้อย่างไร

เช็คให้ชัวร์ว่าสินค้าที่คุณขายนั้นได้รับการอนุญาต รวมถึงทำความเข้าใจสิทธิในการเผยแพร่สินค้าของคุณ ควรตระหนักอยู่เสมอว่ามาตรการความปลอดภัยและกฎข้อบังคับของยุโรปนั้นมีความแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่

จะขายสินค้าอะไรดี เมื่อต้องขยายธุรกิจออนไลน์สู่ Amazon ยุโรป

ก่อนจะเริ่มขายของออนไลน์ในยุโรป คุณต้องเรียนรู้เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งเป็นภาษีที่จัดเก็บจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดย VAT จะถูกเรียกเก็บจากธุรกรรมทางธุรกิจ การนำเข้าสินค้า และสินค้าที่เคลื่อนย้ายไปมาระหว่างประเทศในยุโรป

หากคุณเก็บสินค้าหรือขายสินค้าให้กับลูกค้าในประเทศในยุโรป คุณอาจต้องจดทะเบียน VAT ในประเทศนั้น ๆ ด้วย แม้ผู้ขายของ Amazon ยุโรปแต่ละคนจะต้องรับผิดชอบตามเกณฑ์ VAT เพียงผู้เดียว แต่ Amazon ก็สามารถจัดสรรทรัพยากรและเครื่องมือสำหรับการจดทะเบียนและยื่น VAT ต่อประเทศในยุโรปได้ ซึ่งรวมถึงการจัดหาข้อมูลติดต่อบุคคลภายนอกที่ให้บริการคำปรึกษาด้านภาษีในราคาพิเศษ โดยคุณสามารถใช้เครื่องมือนี้เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าต้องจดทะเบียน VAT ที่ไหนบ้าง

ระยะเวลาที่ใช้จดทะเบียน VAT อาจต่างกันไป เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า ดังนั้น เราแนะนำให้คุณเริ่มต้นกระบวนการนี้ให้เร็วที่สุดเมื่อลงทะเบียนขายของ Amazon ยุโรป

ต้องการความช่วยเหลือเรื่อง VAT? ใช้ VAT Services บน Amazon ได้เลย

VAT Services บน Amazon ช่วยให้คุณได้ทุ่มเวลาไปโฟกัสกับธุรกิจออนไลน์แทนที่จะมานั่งกลุ้มเรื่องภาษี เริ่มต้นที่ 400 ยูโรต่อประเทศต่อปี VAT Services บน Amazon ทำให้คุณสามารถจดทะเบียนและยื่นแบบใน Seller Central ซึ่งเป็นช่องทางที่คุณใช้งานบัญชีผู้ขาย Amazon ได้เลย ทาง Amazon มีการร่วมงานกับผู้ให้บริการระบบภาษีระดับโลกจากภายนอกเพื่อให้บริการนี้ในสหราชอาณาจักร เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน โปแลนด์ และสาธารณรัฐเช็ก