จัดการระบบหลังบ้านยังไง ให้ธุรกิจออนไลน์เติบโต

Blog : [Ecommerce Guide]

แนวทางการใช้ Fulfillment เพื่อขยายธุรกิจ Ecommerce ให้โต

ธุรกิจ Ecommerce ของคุณสามารถอยู่เหนือคู่แข่งได้ ถ้ามีบริการ Fulfillment ที่ใช่ ซึ่งระบบ Fulfillment จะช่วยคุณจัดการออเดอร์ลูกค้า ส่งสินค้าให้ตรงเวลา และรวบรวมข้อมูลว่ามีสินค้าอยู่เท่าไหร่ เพื่อที่จะได้เติมสต็อกหรือทำโปรโมชั่นได้

ความเร็วในการจัดส่งสินค้า ถือเป็นตัวชี้วัดว่ายอดขายของออนไลน์จะรุ่งหรือร่วง! จากการศึกษานักช้อปในสหรัฐอเมริกา มีการค้นพบประเด็นสำคัญ ได้แก่

● 83% ของนักช้อปยกให้การส่งฟรีเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดเมื่อต้องซื้อของออนไลน์
● เกินครึ่งของนักช้อป หรือกว่า 54% ยกเลิกคำสั่งซื้อเพราะติดเรื่องค่าส่ง

ด้วยเหตุนี้ เจ้าของธุรกิจออนไลน์ควรหาทางจัดการระบบ Fulfillment ให้ดี หรือเลือกใช้บริการ Fulfillment ต่าง ๆ เพื่อให้แบรนด์ของคุณโตได้อย่างยั่งยืน และดูแลลูกค้าให้แฮปปี้

ความหมายของ Fulfillment คืออะไร?

Fulfillment เป็นขั้นตอนสำคัญในการทำธุรกิจ Ecommerce ซึ่งเกี่ยวกับการจัดเก็บสินค้า (คลังสินค้า) การแพ็กและส่งสินค้า รวมไปถึงการคืนหรือเปลี่ยนสินค้า กระบวนการนี้จะเริ่มตั้งแต่ลูกค้ากดสั่งซื้อและจบเมื่อลูกค้าได้รับสินค้า กรณีที่ลูกค้าต้องการเปลี่ยนหรือคืนสินค้า ก็จะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของ Fulfillment เช่นกัน

ระบบ Fulfillment ที่มีประสิทธิภาพจะสร้างความเชื่อใจและความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า แต่ถ้าการส่งสินค้าไม่เป็นไปตามที่ลูกค้าคาดหวัง หรือสินค้าเกิดความเสียหายระหว่างขนส่ง ก็จะถือว่าเป็นปัญหาด้าน Fulfillment และสามารถส่งผลกระทบต่อธุรกิจออนไลน์ของคุณได้

การทำ Fulfillment นั้นมีหลายวิธี โดยคุณสามารถทำ In-House Fulfillment เอง หรือใช้บริการ Fulfillment by Amazon (FBA) ก็ได้

ตัวเลือกทั่วไปในการทำ Fulfillment สำหรับธุรกิจ Ecommerce

พอธุรกิจโตขึ้น เจ้าของแบรนด์ Ecommerce ส่วนใหญ่ก็มักมาถึงจุดที่ต้องตัดสินใจว่าจะหาวิธีจัดการคลังสินค้า การส่งออก และขยายระบบการทำงานหลังบ้านโดยใช้ทีมงานตัวเอง หรือจะใช้บริการ Fulfillment ไปเลย ซึ่งก็มี 3 แนวทางแก้ปัญหา ดังนี้

ทำ In-House Fulfillment เอง

การเก็บและแพ็กสินค้าเองจากที่บ้านเป็นวิธีทั่วไปที่แบรนด์ไม่ใหญ่มากนิยมทำกัน วิธีนี้มีข้อจำกัดตรงที่สถานที่เก็บไม่รองรับปริมาณและความหลากหลายของสินค้ามากพอ ซึ่งอาจทำให้ค่าใช้จ่ายของคุณเพิ่มขึ้น

โดย In-House Fulfillment เหมาะกับธุรกิจที่มีลักษณะต่อไปนี้

● มีสินค้าในคลังไม่เยอะมาก
● มีเครือข่ายโลจิสติกส์อยู่แล้ว
● ขายสินค้าที่มีการแพ็กและจัดส่งที่ซับซ้อน

ยิ่งออเดอร์เพิ่มขึ้น การเก็บ แพ็ก และจัดส่งสินค้าได้ถึงหน้าบ้านลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งเป็นสิ่งสำคัญ คุณสามารถขยายคลังสินค้าหรือแหล่งเก็บของ หรือจะหาบริการ Fulfillment สำหรับสินค้าบางตัวโดยเฉพาะก็ได้

ใช้บริการ Fulfillment

มีบริษัท Ecommerce มากมายที่ให้บริการ Fulfillment ครบวงจร ตั้งแต่จัดทำคลังสินค้า แพ็กของ ส่งออกสินค้า ไปจนถึงการคืนสินค้า ซึ่งบริการ Fulfillment by Amazon (FBA) ถือว่าตอบโจทย์ธุรกิจ Ecommerce ทั้งหมดนี้ได้ ตลอดทั้งปี 2019 จนถึง 2020 Amazon ลงทุนไปกว่า 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในด้านโลจิสติกส์ เครื่องมือ บริการ โปรแกรม และทรัพยากรบุคคลเพื่อช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กและกลางให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

บริการ Fulfillment by Amazon

ลูกค้า Ecommerce ย่อมคาดหวังการจัดส่งที่เร็วและไว้ใจได้ หลาย ๆ ธุรกิจจึงเลือกใช้บริการ Fulfillment by Amazon (FBA) เพื่อให้การจัดส่งของ Amazon Prime ตอบโจทย์ความคาดหวังของลูกค้าในช่องทางออนไลน์

FBA คือตัวเลือกที่ใช่ ถ้าคุณกำลังมองหาสิ่งเหล่านี้

● อยากประหยัดเวลา และมองหาลู่ทางในการขยายธุรกิจออนไลน์
● อยากได้บริการครบวงจร ตั้งแต่จัดทำคลังสินค้า แพ็กของ ส่งออกสินค้า ไปจนถึงการคืนสินค้า พร้อมบริการ Customer service สำหรับออเดอร์ต่าง ๆ
● อยากดึงดูดลูกค้า Amazon Prime ให้อุดหนุนธุรกิจของคุณ

FBA ช่วยให้คุณได้ส่งสินค้าของคุณ สู่คลังสินค้า Amazon ในราคาที่สมเหตุสมผล เมื่อมีออเดอร์เข้ามา Amazon จะช่วยส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้า โดยคุณสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายจัดส่งของ Amazon รวมไปถึงระบบหลังบ้านที่ทันสมัย บริการจัดส่งระดับโลก ระบบคืนสินค้า และฝ่าย Customer Service อีกด้วย

ใช้วิธี Multi-channel Ecommerce Fulfillment

ลูกค้าอาจสั่งสินค้าของคุณได้ทั้งจากเว็บไซต์, Amazon, Social Media หรือช่องทางอื่น ๆ แต่ก็ไม่จำเป็นว่าคุณต้องมีบริการ Fulfillment แยกสำหรับทุกช่องทาง

Multi-channel Fulfillment คือกระบวนการจัดการออเดอร์ในทุกช่องทางการขายของคุณ การมี Multi-channel Fulfillment จะช่วยให้คุณทำการตลาด Ecommerce และสร้างช่องทางการขายได้หลากหลายขึ้น โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องระบบ Fulfillment

บริการ FBA ก็สามารถทำ Multi-channel Fulfillment ได้ กล่าวคือ คุณสามารถขายของออนไลน์บนเว็บไซต์ของคุณเอง และส่งออเดอร์ต่อมาที่ Amazon เพื่อให้เราจัดการเรื่อง Fulfillment อีกต่อ

Dropshipping

Dropshipping คือ การนำสินค้าของผู้อื่นมาขายต่อบนช่องทาง Ecommerce ถือเป็นการใช้ Supply Chain จากข้างนอกทั้งหมด ตั้งแต่การหาสินค้ามาขาย การผลิต ไปจนถึงกระบวนการ Fulfillment โดยที่โรงงานผู้ผลิตหรือคนนอกสามารถรับหน้าที่ผลิต เก็บสินค้า และส่งออกสินค้าไปจนถึงมือลูกค้าได้

ผู้ขายหลายคนนิยมทำ Dropshipping เพราะช่วยลดต้นทุนไปได้เยอะ สิ่งที่ต้องทำคือแค่สร้างกลยุทธ์การตลาดและบริหารธุรกิจไป ส่วนเรื่องการจัดการสินค้าหรือ Fulfillment ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญ

เทคนิคเล็กน้อยในการทำ Dropshipping

● เป็นผู้ขายที่บันทึกสินค้าของตัวเอง
● ระบุตัวเองว่าเป็นผู้ขายสินค้าบนสลิปทั้งหมด รวมถึงใบแจ้งหนี้ การแพ็กสินค้า และข้อมูลอื่น ๆ เมื่อต้องติดต่อกับผู้ให้บริการ Fulfillment
● ก่อนที่จะส่งของให้ลูกค้า ควรนำสลิป ใบแจ้งหนี้ แพ็กเกจจิงจากภายนอก หรือข้อมูลที่บ่งชี้ถึงบุคคลอื่นออกไปให้หมด
● รับหน้าที่ดูแลและดำเนินการรับสินค้าคืนจากลูกค้า
● ปฏิบัติตามนโยบายและเงื่อนไขของข้อตกลงการเป็นผู้ขายกับ Amazon

ที่มา: https://sell.amazon.com/learn/ecommerce-fulfillment