Blog : [Ecommerce Guide]

จัดการ Fulfillment ให้ดี กระตุ้นยอดขายออนไลน์ได้หลายเท่า!

วิธีการทำ Fulfillment ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจ Ecommerce ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ตั้งแต่ลักษณะของธุรกิจ ประเภทสินค้าที่คุณขาย ทำเล และกลยุทธ์การตลาดเพื่อมัดใจลูกค้า

ขั้นตอนการทำ Fulfillment เป็นอย่างไร?

ทุกขั้นตอนของ Fulfillment คือโอกาสที่คุณจะได้พัฒนาทุกจุดให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ตั้งแต่นาทีที่ลูกค้ากดสั่งซื้อไปจนถึงตอนแกะกล่องสินค้า ความล่าช้าหรือข้อผิดพลาดเล็กน้อยอาจทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์แย่ ๆ ก็ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ การรู้จักและเข้าใจทุกขั้นตอนของ Fulfillment อย่างลึกซึ้งจึงเป็นสิ่งสำคัญ

การรับสินค้าเข้าคลัง

ขั้นแรกเลย คือ การรับสินค้าของคุณเข้าสู่ศูนย์กระจายสินค้า หรือที่เรียกกันว่า การรับสินค้าเข้าคลัง สถานที่รับสินค้าอาจเป็นออฟฟิศของคุณ คลังสินค้า ศูนย์ Fulfillment หรือพื้นที่จัดเก็บสินค้าก็ได้

หากคุณจ้าง Outsource มาทำงานส่วนนี้ อย่าลืมแพ็กสินค้าด้วยวัสดุที่เหมาะกับการขนส่ง พร้อมฉลากสินค้าที่ชัดเจน วิธีนี้จะช่วยให้การรับสินค้าเข้าคลังไวขึ้น และยังอุ่นใจได้ว่าสินค้าของคุณพร้อมส่งถึงมือลูกค้า

ปัญหาที่มักทำให้การรับสินค้าเข้าคลังล่าช้า

เรื่องเล็ก ๆ ที่ถูกมองข้ามสามารถสร้างความล่าช้าในการรับสินค้าเข้าคลังได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพื่อให้ทุกขั้นตอนการจัดส่งเป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่นที่สุด เราแนะนำให้คุณยึดหลักเกณฑ์การขนส่งของ Amazon ดังนี้

● ไม่มัดรวมสินค้าหลายกล่องเข้าด้วยกัน
● กล่องส่งพัสดุไม่ควรมีบาร์โค้ดหรืออะไรก็ตามที่สแกนได้นอกจากฉลากข้อมูลขนส่ง
● อย่าแปะฉลากข้อมูลขนส่งไว้บนฝาปิดกล่องพัสดุ
● กล่องพัสดุควรสอดคล้องกับข้อกำหนดของ Amazon
● เพื่อป้องกันสินค้าเสียหายและลดแรงกระแทก ควรใช้โฟม ถุงลม หรือห่อกระดาษไว้ให้เต็มกล่อง แทนพวกโฟมตัวหนอนหรือกระดาษฝอย
● เช็คให้ชัวร์ว่าทุกกล่องพัสดุมีบาร์โค้ดที่สแกนได้จริง และแต่ละกล่องควรมีแค่บาร์โค้ดเดียว
● กรณีส่งสินค้าแบบ Case-packed (สินค้าจำนวนมากที่แพ็กมาในบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่) จะต้องมีบาร์โค้ดแยกสำหรับทุกสินค้าข้างใน และไม่ควรมีบาร์โค้ดอยู่บนบรรจุภัณฑ์ด้านนอก
● หมั่นตรวจสอบอยู่ตลอดว่าสินค้าแต่ละยูนิตได้รับการแพ็กอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าเสียหาย
การจัดเก็บสินค้า

การจัดเก็บสินค้าคงคลัง

สินค้าคงคลังคือแหล่งจัดเก็บคำสั่งซื้อสินค้าของคุณ หากคุณทำ In-House Fulfillment เอง คลังสินค้าของคุณก็มักเป็นสถานที่ ๆ เข้าถึงได้ง่ายอย่างบ้านหรือห้องเก็บของ แต่ธุรกิจใหญ่มักจำเป็นต้องใช้คลังสินค้าหรือโกดังเป็นที่จัดเก็บ

การจัดเก็บสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะช่วงวันหยุดเทศกาลหรืองานใหญ่ อาทิ Prime Day หรือแคมเปญ 11.11

สินค้าแต่ละตัวควรมีโค้ดระบุ SKU (Stock Keeping Unit) เพื่อจำแนกไปสู่คลังสินค้าในแต่ละที่ จะช่วยให้คุณจัดการสินค้าคงคลังได้ดีขึ้น

การดำเนินการคำสั่งซื้อ

เมื่อลูกค้าชำระเงินเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นการดำเนินการคำสั่งซื้อ ได้แก่ กระบวนการเลือกสินค้า แพ็กสินค้า และเตรียมจัดส่ง

การเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ใช่ถือเป็นสิ่งสำคัญในขั้นตอนการดำเนินการคำสั่งซื้อ โดยมีสิ่งที่ควรคำนึงถึง ดังนี้

● กล่องพัสดุ
● ซองกระดาษหรือซองกันกระแทก
● วัสดุสำหรับแพ็กสินค้า เช่น พลาสติกบับเบิ้ลหรือถุงลม

ทั้งนี้ อย่าลืมทำตามข้อกำหนดการเตรียมการและแพ็กสินค้าของ Amazon เพื่อลดต้นทุนและหลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดระหว่างจัดส่ง

การจัดส่ง

หากคุณไม่ได้ใช้บริการอย่าง Fulfillment by Amazon หรือ FBA ขั้นตอนถัดไปในการทำ Fulfillment คือ การส่งสินค้าผ่านบริษัทขนส่งใหญ่ ๆ ซึ่งหากเป็นออเดอร์ขนาดเล็ก ก็สามารถจัดส่งได้ง่าย ๆ ที่ไปรษณีย์หรือจุดรับส่งพัสดุใกล้บ้าน แต่ถ้าเป็นออเดอร์ขนาดใหญ่ อาจต้องใช้บริษัทขนส่งมารับสินค้าจากศูนย์ Fulfillment หรือพื้นที่จัดเก็บสินค้าของธุรกิจคุณ

การแจ้งเตือนลูกค้าเมื่อจัดส่ง

แม้จะไม่ใช่ข้อบังคับของการทำ Fulfillment ในธุรกิจออนไลน์ แต่การใช้เครื่องมือสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านการแจ้ง Tracking Number และบอกให้ลูกค้ารู้ว่าสินค้าจะมาถึงเมื่อไหร่ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ การใช้อีเมลหรือแจ้งหมายเลขพัสดุก็จะช่วยลดจำนวนลูกค้าที่โทรเข้า Customer Service เพื่อถามถึงสถานะสินค้าได้ด้วย

การคืนสินค้า

การคืนสินค้าถือเป็นเรื่องปกติและคาดการณ์ได้ในการทำธุรกิจออนไลน์ ไม่ว่าคุณจะทำ In-House Fulfillment เองหรือใช้บริการ Fulfillment ก็ควรจะมีขั้นตอนรับมือกับการคืนสินค้า การรีสต็อก การทิ้งสินค้ามีตำหนิ และคืนเงินให้กับลูกค้าด้วย

ในวงการขายของออนไลน์ เสื้อผ้าถือเป็นสินค้าที่มักถูกลูกค้าส่งคืนมากที่สุด คิดเป็น 75% ของการคืนสินค้าทั้งหมดเลยทีเดียว แต่ก็อย่าให้เรื่องการคืนสินค้าบั่นทอนกำลังใจคุณ หากคุณเป็นมือใหม่หัดทำ Ecommerce ก็ควรเรียนรู้เกี่ยวกับประเภทสินค้าที่มีอัตราการคืนสูง พร้อมเตรียมนโยบายและขั้นตอนในการคืนสินค้าเอาไว้ด้วย แต่ถ้าคุณใช้บริการ FBA ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะ Amazon จะเป็นผู้ดำเนินการเรื่องคืนสินค้าในนามของคุณให้เอง

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Fulfillment ได้ที่:
https://sell.amazon.co.th/blogs/2021/fulfillment-guide
https://sell.amazon.co.th/blogs/2021/fulfillment-checklist
© 2021, Amazon.com Services LLC.