Blog : [Ecommerce Guide]
เจาะลึก 9 ข้อดีของธุรกิจ Ecommerce ที่นักขายมือใหม่ต้องรู้!
ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจ Ecommerce หรือการขายของออนไลน์ในปัจจุบัน สร้างโอกาสและรายได้ให้นักธุรกิจมากมาย วันนี้เราจึงรวมประโยชน์และข้อดีเน้น ๆ ของการทำธุรกิจออนไลน์มาให้ทุกท่านได้ศึกษาเพิ่มเติม โดยแบ่งเป็น 9 ข้อดังนี้
1. ขั้นตอนการสั่งซื้อรวดเร็ว
2. สร้างรายการสินค้าได้ง่าย
3. ลดต้นทุนหน้าร้าน
4. โฆษณาและทำการตลาดได้ตรงจุด
5. ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
6. เปรียบเทียบสินค้าและราคาง่ายดาย
7. เข้าถึงลูกค้าได้ไม่จำกัดจำนวน
8. โต้ตอบลูกค้าได้ไว รับมือกับความต้องการของตลาดได้ทันที
9. ชำระเงินได้หลายช่องทาง
1. ขั้นตอนการสั่งซื้อรวดเร็ว
2. สร้างรายการสินค้าได้ง่าย
3. ลดต้นทุนหน้าร้าน
4. โฆษณาและทำการตลาดได้ตรงจุด
5. ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
6. เปรียบเทียบสินค้าและราคาง่ายดาย
7. เข้าถึงลูกค้าได้ไม่จำกัดจำนวน
8. โต้ตอบลูกค้าได้ไว รับมือกับความต้องการของตลาดได้ทันที
9. ชำระเงินได้หลายช่องทาง
USD$39.99/เดือน + ค่าธรรมเนียมการขาย
1. ขั้นตอนการสั่งซื้อรวดเร็ว
บนโลกออนไลน์ ลูกค้าจะใช้เวลาช้อปปิ้งในสิ่งที่ต้องการเร็วกว่าเดิม เพราะสามารถกดดูสินค้าหลายชนิดได้ในเวลาเดียวและถ้าถูกใจก็กดซื้อได้เลย พอเข้าสู่โลกออนไลน์ปุ๊บ ก็เจอของที่อยากได้สบาย ๆ ซึ่งถ้าไปซื้อที่ร้านอาจไกลกว่ามาก หรือไม่มีขายในย่านนั้นเลย
ด้วยเหตุผลนี้ Ecommerce จึงกลายเป็นตัวช่วยให้กับนักช้อปอย่างมาก เพราะแค่เสิร์ชไอเทมที่อยากได้บนโลกออนไลน์ ก็เห็นผลทันที แถมสั่งซื้อได้อย่างไว
ข้อดีของการทำ Ecommerce ยังรวมถึงการช่วยให้ผู้คนได้เลือกสินค้าหลากหลาย และสั่งให้มาส่งถึงที่ได้ไม่ยาก เพียงแค่ค้นหาสินค้า ดูรายละเอียด กดใส่รถเข็น ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่นาที ทำให้ลูกค้าแฮปปี้เพราะสามารถได้ของที่ต้องการโดยที่ไม่ต้องออกไปไหน
ด้วยเหตุผลนี้ Ecommerce จึงกลายเป็นตัวช่วยให้กับนักช้อปอย่างมาก เพราะแค่เสิร์ชไอเทมที่อยากได้บนโลกออนไลน์ ก็เห็นผลทันที แถมสั่งซื้อได้อย่างไว
ข้อดีของการทำ Ecommerce ยังรวมถึงการช่วยให้ผู้คนได้เลือกสินค้าหลากหลาย และสั่งให้มาส่งถึงที่ได้ไม่ยาก เพียงแค่ค้นหาสินค้า ดูรายละเอียด กดใส่รถเข็น ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่นาที ทำให้ลูกค้าแฮปปี้เพราะสามารถได้ของที่ต้องการโดยที่ไม่ต้องออกไปไหน
2. สร้างรายการสินค้าได้ง่าย
รายการสินค้าคือสิ่งที่ลูกค้าจะเห็นเมื่อพวกเขากดค้นหาของที่ต้องการ ถือเป็นข้อดีของฝั่งผู้ขาย เพราะหลังจากสร้างรายการสินค้าแล้ว คุณสามารถปรับแต่งรายละเอียดให้น่าสนใจได้เท่าที่ต้องการ และยังใช้เวลานิดเดียว! สิ่งที่จำเป็นต้องมีก็แค่ชื่อสินค้าหรือโค้ด อาทิ EAN, UPC, ISBN หรือ ASIN
นอกจากนี้ ผู้ขายยังสามารถใส่ภาพสินค้า รายละเอียด ประเภทสินค้า ราคา ค่าส่ง และวันจัดส่งสินค้า เรียกว่าครบจบในขั้นตอนเดียว ลูกค้าเห็นก็จะรู้ได้เลยว่าร้านคุณมีอะไรขายบ้าง
แล้วมันต่างจากการขายออฟไลน์ มีหน้าร้านยังไง? – เวลาขายออฟไลน์ผ่านหน้าร้าน คนขายอาจให้รายละเอียดของสินค้าได้แค่บางส่วน ต้องคอยพูดเรื่องเดิม ๆ กับลูกค้าทุกคน แต่ถ้าสินค้าอยู่บน Online Marketplace คุณก็จะมีพื้นที่เล่าเรื่องหรือแจกแจงรายละเอียดสินค้าได้มากขึ้น แค่อัปโหลดลงครั้งเดียว ลูกค้าที่สนใจก็เข้ามาอ่านได้เลย แถมยังมีข้อมูลอื่น ๆ อย่างรีวิว วิดิโอสาธิต โปรโมชั่น และระยะเวลาจัดส่งโดยประมาณได้อีกด้วย
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด รายการสินค้าเหล่านี้อยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด เท่ากับว่าลูกค้าเปิดมาเจอเมื่อไหร่ก็สั่งได้ทันที และถ้าสินค้าขายหมด ผู้ขายก็สามารถเพิ่มรายการสินค้าเพิ่มหรือลบออกไปก็ได้
นอกจากนี้ ผู้ขายยังสามารถใส่ภาพสินค้า รายละเอียด ประเภทสินค้า ราคา ค่าส่ง และวันจัดส่งสินค้า เรียกว่าครบจบในขั้นตอนเดียว ลูกค้าเห็นก็จะรู้ได้เลยว่าร้านคุณมีอะไรขายบ้าง
แล้วมันต่างจากการขายออฟไลน์ มีหน้าร้านยังไง? – เวลาขายออฟไลน์ผ่านหน้าร้าน คนขายอาจให้รายละเอียดของสินค้าได้แค่บางส่วน ต้องคอยพูดเรื่องเดิม ๆ กับลูกค้าทุกคน แต่ถ้าสินค้าอยู่บน Online Marketplace คุณก็จะมีพื้นที่เล่าเรื่องหรือแจกแจงรายละเอียดสินค้าได้มากขึ้น แค่อัปโหลดลงครั้งเดียว ลูกค้าที่สนใจก็เข้ามาอ่านได้เลย แถมยังมีข้อมูลอื่น ๆ อย่างรีวิว วิดิโอสาธิต โปรโมชั่น และระยะเวลาจัดส่งโดยประมาณได้อีกด้วย
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด รายการสินค้าเหล่านี้อยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด เท่ากับว่าลูกค้าเปิดมาเจอเมื่อไหร่ก็สั่งได้ทันที และถ้าสินค้าขายหมด ผู้ขายก็สามารถเพิ่มรายการสินค้าเพิ่มหรือลบออกไปก็ได้
3. ลดต้นทุนหน้าร้าน
วงการช้อปปิ้งออนไลน์พัฒนาขึ้นทุกวัน ผู้คนสั่งซื้อของโดยใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แท็บเล็ต และอุปกรณ์อื่น ๆ พวกเขาใช้เว็บไซต์ ดูเพจต่าง ๆ บน Social Media และเริ่มเข้าสู่ช่องทางที่ใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง ทุกวันนี้ ภาพรวมของการทำ Ecommerce มีอยู่ 3 วิธีหลักๆ คือ
4. โฆษณาและทำการตลาดได้ตรงจุด
ผู้ขายไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะในการโปรโมทสินค้า เพราะโลกของ Ecommerce มีหลายวิธีในการทำการตลาดออนไลน์ที่ราคาไม่แพงและทำได้เร็ว Ecommerce Marketplace คือช่องทางเสมือนจริงที่ผู้ขายสามารถโชว์สินค้าของตัวเองได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ขาย Amazon สามารถเลือกใช้โฆษณาบน Amazon ในการโปรโมทสินค้าโดยใส่วิดิโอ อินโฟกราฟิก หรือภาพสินค้าที่มีความคมชัดสูง และส่งไปหากลุ่มเป้าหมายที่ตรงจุด ช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. ให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
อีกประโยชน์สำคัญของ Ecommerce คือ ลูกค้าจะมีความยืดหยุ่นมากกว่า เพราะสินค้าและบริการเปิดให้ช้อปตลอด 24 ชั่วโมงตลอด 7 วัน ทำให้ขายสินค้าเมื่อไหร่ ที่ไหนก็ได้ แถมลูกค้ายังมีแนวโน้มที่จะกลับมาซื้อซ้ำเพราะความสะดวก รวมถึงค่าส่งฟรี การส่งแบบด่วนพิเศษ ส่วนลด หรือสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิก
ลูกค้าบนโลกออนไลน์ยังชอบรีวิวสินค้าที่ตัวเองซื้อไปอีกด้วย ซึ่งรีวิวที่ดีก็ถือเป็นผลประโยชน์สองต่อของการใช้ Ecommerce ต่อแรก คือ ลูกค้าจะมีความเชื่อใจในร้านค้าของคุณ โดยดูจากจำนวนรีวิวด้านบวก ต่อที่สอง ฝั่งผู้ขายก็จะได้เห็นเช่นกันว่าสินค้าไหนที่กำลังขายดี
ผู้ขายยังสามารถใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นของลูกค้าเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจตัวเอง เพราะการขายบน Online Marketplace ทำให้พวกเขามั่นใจได้ว่ายังไงก็มีผู้ซื้อจำนวนมากรออยู่
ลูกค้าบนโลกออนไลน์ยังชอบรีวิวสินค้าที่ตัวเองซื้อไปอีกด้วย ซึ่งรีวิวที่ดีก็ถือเป็นผลประโยชน์สองต่อของการใช้ Ecommerce ต่อแรก คือ ลูกค้าจะมีความเชื่อใจในร้านค้าของคุณ โดยดูจากจำนวนรีวิวด้านบวก ต่อที่สอง ฝั่งผู้ขายก็จะได้เห็นเช่นกันว่าสินค้าไหนที่กำลังขายดี
ผู้ขายยังสามารถใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นของลูกค้าเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจตัวเอง เพราะการขายบน Online Marketplace ทำให้พวกเขามั่นใจได้ว่ายังไงก็มีผู้ซื้อจำนวนมากรออยู่
6. เปรียบเทียบสินค้าและราคาง่ายดาย
Ecommerce ทำให้ผู้ขายเปรียบเทียบราคาสินค้าในตลาดได้ง่าย เป็นเคล็ดลับการตลาดที่ช่วยให้ผู้ขายรู้ว่ามีสินค้าไหนที่เป็นทางเลือกบ้าง ราคาคู่แข่งเป็นอย่างไร หรือความต้องการของลูกค้ามีมากน้อยแค่ไหน
โดยการเปรียบเทียบสินค้าออนไลน์ประหยัดเวลาได้มากกว่า เพราะรายละเอียดทุกอย่างก็อยู่ในเว็บไซต์ หากเป็นหน้าร้านค้าปกติ ผู้ขายอาจไม่ได้เข้าถึงรายละเอียดจำนวนมากได้ และอาจมีความรู้แค่สินค้าที่ตัวเองมี
โดยการเปรียบเทียบสินค้าออนไลน์ประหยัดเวลาได้มากกว่า เพราะรายละเอียดทุกอย่างก็อยู่ในเว็บไซต์ หากเป็นหน้าร้านค้าปกติ ผู้ขายอาจไม่ได้เข้าถึงรายละเอียดจำนวนมากได้ และอาจมีความรู้แค่สินค้าที่ตัวเองมี
7. เข้าถึงลูกค้าได้ไม่จำกัดจำนวน
การขายออฟไลน์แบบมีหน้าร้านอาจเข้าถึงลูกค้าได้แค่จำนวนหนึ่งเท่านั้น แม้จะส่งสินค้าถึงบ้านลูกค้าได้ แต่ก็จำกัดระยะการส่งอยู่ดี ซึ่ง Ecommerce Marketplace ไม่มีปัญหาในส่วนนี้ เพราะเมื่อไม่ต้องมีหน้าร้าน ความปวดหัวเรื่องระยะทางและเส้นแบ่งเขตเวลาก็หมดไป ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วโลกโดยไม่จำกัดจำนวน ถือเป็นประโยชน์สำหรับผู้ขายที่อยากหาลูกค้าใหม่ ๆ ขยายฐานธุรกิจ หรือสร้างยอดขายให้เติบโต
โดยสามารถเริ่มขายของบน Amazon และเข้าถึงฐานลูกค้ากว่า 300 ล้านรายทั่วโลกได้แล้ววันนี้!
โดยสามารถเริ่มขายของบน Amazon และเข้าถึงฐานลูกค้ากว่า 300 ล้านรายทั่วโลกได้แล้ววันนี้!
8. โต้ตอบลูกค้าได้ไว รับมือกับความต้องการตลาดได้ทันที
ทุกกิจกรรมจะดำเนินได้เร็วกว่าเดิมเมื่อคุณขายของออนไลน์! เพราะกระบวนการสั่งซื้อสินค้าจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น การคืนสินค้าก็สามารถจัดการได้ไว เพียงคืนเงินหรือส่งสินค้าให้ใหม่เท่านั้น
Ecommerce ยังทำให้ผู้ขายรับมือกับความต้องการของตลาดได้เร็ว ตัวอย่างเช่น ลูกค้าเห็นว่าสินค้าตัวนี้หมด ก็แค่กดตัวเลือก ‘แจ้งเตือนฉันเมื่อมีสินค้า (Notify Me)’ และเมื่อสินค้าเข้าสต็อกอีกครั้ง เขาก็จะรู้ได้ทันที ในทางกลับกัน ผู้ขายก็จะได้รับการแจ้งเตือนเช่นกันเมื่อสินค้าหมด
ดีลหรือโปรโมชั่นก็เป็นอีกสิ่งที่สามารถทำได้ไวเมื่อเป็นธุรกิจออนไลน์ เป็นการดึงดูดลูกค้าและเพิ่มโอกาสสร้างยอดให้มากขึ้น ผู้ขายยังสามารถวางแผนหรือสร้างคูปองส่วนลดที่เหมาะกับร้านตัวเองได้ตามต้องการ
Ecommerce ยังทำให้ผู้ขายรับมือกับความต้องการของตลาดได้เร็ว ตัวอย่างเช่น ลูกค้าเห็นว่าสินค้าตัวนี้หมด ก็แค่กดตัวเลือก ‘แจ้งเตือนฉันเมื่อมีสินค้า (Notify Me)’ และเมื่อสินค้าเข้าสต็อกอีกครั้ง เขาก็จะรู้ได้ทันที ในทางกลับกัน ผู้ขายก็จะได้รับการแจ้งเตือนเช่นกันเมื่อสินค้าหมด
ดีลหรือโปรโมชั่นก็เป็นอีกสิ่งที่สามารถทำได้ไวเมื่อเป็นธุรกิจออนไลน์ เป็นการดึงดูดลูกค้าและเพิ่มโอกาสสร้างยอดให้มากขึ้น ผู้ขายยังสามารถวางแผนหรือสร้างคูปองส่วนลดที่เหมาะกับร้านตัวเองได้ตามต้องการ
9. ชำระเงินได้หลายช่องทาง
ลูกค้ามักชอบสินค้าหรือบริการที่ Personalized หรือถูกสร้างมาเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะ ช่องทางการชำระเงินก็เช่นกัน ซึ่ง Ecommerce Marketplace มีช่องทางชำระเงินให้ลูกค้ามากมาย อาทิ เก็บเงินปลายทาง โมบายแบงก์กิ้ง บัตรเครดิต/เดบิต หรือจะซื้อก่อนแล้วจ่ายทีหลังก็ได้
โดยทั่วไปแล้ว ลูกค้าจะเลือกช่องทางชำระเงินได้เพียงช่องทางเดียวต่อหนึ่งคำสั่งซื้อเท่านั้น ซึ่งแต่ละตัวเลือกก็จะมีผลมาจากมูลค่าคำสั่งซื้อ ความสะดวกในการชำระเงินหรือจำนวนเงินสดหรือวงเงินบัตร แต่ในบางกรณี ลูกค้าสามารถรวมช่องทางชำระเงินไว้ในกระเป๋าเดียวได้
วิธีนี้ทำให้ผู้ขายไม่ต้องเสียโอกาสการขายเพราะลูกค้ามีช่องทางชำระเงินไม่เพียงพอ
สมัครเป็นผู้ขายกับ Amazon หนึ่งใน Online Marketplace ที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมใช้ประโยชน์จากบริการของเราเพื่อเริ่มต้นการขาย สร้างรายได้ และต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยทั่วไปแล้ว ลูกค้าจะเลือกช่องทางชำระเงินได้เพียงช่องทางเดียวต่อหนึ่งคำสั่งซื้อเท่านั้น ซึ่งแต่ละตัวเลือกก็จะมีผลมาจากมูลค่าคำสั่งซื้อ ความสะดวกในการชำระเงินหรือจำนวนเงินสดหรือวงเงินบัตร แต่ในบางกรณี ลูกค้าสามารถรวมช่องทางชำระเงินไว้ในกระเป๋าเดียวได้
วิธีนี้ทำให้ผู้ขายไม่ต้องเสียโอกาสการขายเพราะลูกค้ามีช่องทางชำระเงินไม่เพียงพอ
สมัครเป็นผู้ขายกับ Amazon หนึ่งใน Online Marketplace ที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมใช้ประโยชน์จากบริการของเราเพื่อเริ่มต้นการขาย สร้างรายได้ และต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง