คำถามที่พบบ่อยสำหรับการขายของใน Amazon
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับธุรกิจ e-commerce
ธุรกิจออนไลน์เป็นไอเดียที่ดีหรือไม่?
การขายออนไลน์อาจเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงผู้มีโอกาสเป็นลูกค้านับล้านทั่วโลก ร้านค้าออนไลน์ไม่ได้ถูกจำกัดตามสถานที่ตั้งของประเทศ ทำให้เจ้าของธุรกิจ Start Up หรือแม้กระทั่ง Freelancer ต่างๆมีอิสระในการทำงานได้จากทุกที่ทั่วโลก รู้หรือไม่ว่าธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่ขายในอเมซอนมาจาก ทุกรัฐในสหรัฐอเมริกาและมากกว่า 130 ประเทศทั่วโลก
อยากเริ่มสร้างธุรกิจบนโลกออนไลน์ เริ่มต้นยังไงดี?
ลองเริ่มคิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณมี Passion เช่น หากคุณมี Solution หรือสินค้าที่เป็นทางออกสำหรับปัญหาที่พบบ่อยๆ สินค้าใหม่ หรือสินค้าที่ธุรกิจคุณขายในช่องทางหน้าร้านอยู่แล้ว คุณสามารถลองสมัครเป็นผู้ขาย และศึกษาดูเรื่องราวของนักธุรกิจในไทยและทั่วทุกมุมโลกที่ได้ขายใน Amazon.com เรียนรู้เส้นทางการขายให้ประสบความสำเร็จจากประสบการณ์จริง
ธุรกิจออนไลน์ขายอะไรดี ที่มีกำไรมากที่สุด?
คุณสามารถเริ่มดูตามประเภทสินค้าที่คุณมีความสนใจ ตัวอย่างเช่น เข้าไปเช็คตามเว็บไซต์ e-commerce ชั้นนำเช่น amazon.com ว่าลูกค้านิยมสินค้าอะไรบ้าง สามารถแบ่งประเภทได้ดังนี้
1. เสื้อผ้า หรือแฟชั่นตามฤดูกาล
2. สินค้าเกี่ยวกับสุขภาพและความงาม
3. สินค้าเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ภายในบ้าน
4. สินค้า IT หรือ Gadget
5. ของเล่นและสินค้าสำหรับเด็ก
หรือถ้าคุณมีสินค้าในใจอยู่แล้ว แนะนำให้ทำวิจัยลูกค้าในตลาดสหรัฐฯ โดยค้นหาสินค้าที่ขายดีบน amazon.com ได้ที่หมวดหมู่ Best selling หรือสินค้าขายดีของเว็บไซต์นั้นๆ ต่อจากนั้นจึงพิจารณาการจัดหาสินค้า (sourcing) หรือเริ่มดีไซน์และพัฒนาสินค้า (Research & Development) และเลือกช่องทางการขายที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
เคล็ดลับคือการเพิ่มการมองเห็นและโปรโมตผลิตภัณฑ์ผ่านการยิงแอด และจัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว จะช่วยเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม ลองดูที่คู่มือเริ่มต้นสำหรับมือใหม่
1. เสื้อผ้า หรือแฟชั่นตามฤดูกาล
2. สินค้าเกี่ยวกับสุขภาพและความงาม
3. สินค้าเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ภายในบ้าน
4. สินค้า IT หรือ Gadget
5. ของเล่นและสินค้าสำหรับเด็ก
หรือถ้าคุณมีสินค้าในใจอยู่แล้ว แนะนำให้ทำวิจัยลูกค้าในตลาดสหรัฐฯ โดยค้นหาสินค้าที่ขายดีบน amazon.com ได้ที่หมวดหมู่ Best selling หรือสินค้าขายดีของเว็บไซต์นั้นๆ ต่อจากนั้นจึงพิจารณาการจัดหาสินค้า (sourcing) หรือเริ่มดีไซน์และพัฒนาสินค้า (Research & Development) และเลือกช่องทางการขายที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
เคล็ดลับคือการเพิ่มการมองเห็นและโปรโมตผลิตภัณฑ์ผ่านการยิงแอด และจัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว จะช่วยเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม ลองดูที่คู่มือเริ่มต้นสำหรับมือใหม่
สามารถเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ประเภทใดได้บ้าง?
สามารถเริ่มธุรกิจออนไลน์ e-commerce ได้ทั้งประเภทสินค้า, บริการ ขายให้ B2C (Business to Consumer) หรือ B2B (Business to Business) ผู้ประกอบการสามารถเช็คที่นี่ว่าขายอะไรได้บ้างบน amazon.com
USD$39.99/เดือน + ค่าธรรมเนียมการขาย
ธุรกิจออนไลน์ที่ที่ทำได้ที่บ้านมีอะไรบ้าง?
ลองเริ่มจากอะไรง่ายๆในสิ่งที่คุณชอบ อะไรคือจุดแข็งของคุณ? คุณหลงใหลเรื่องอะไร ผลิตภัณฑ์อะไรที่คุณใช้ในแต่ละวันและต้องการให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น? เรียนรู้วิธีการ เริ่มต้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ทำได้ที่บ้านได้แล้ววันนี้
ขายใน Amazon ดียังไง?
Amazon มีเครื่องมือมากมายเพื่อสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจของคุณ มีธุรกิจกว่า 1.7 ล้านรายที่เป็นธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางทั่วโลกที่ขายสินค้าใน Amazon.com เริ่มต้นเส้นทาง e-commerce ของคุณได้แล้ววันนี้
USD$39.99/เดือน + ค่าธรรมเนียมการขาย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับภาพรวมการเป็นผู้ขาย
การขายบน Amazon คืออะไร?
โปรแกรมที่ช่วยให้ผู้ขาย ทั้งในฐานะบุคคล หรือนิติบุคคล ขายสินค้าในร้านค้าออนไลน์ของ Amazon เช่น Amazon.com ในประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมบริการต่าง ๆ ที่ช่วยให้การขายข้ามประเทศไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป เช่น บริการจัดเก็บและกระขายสินค้า FBA เป็นต้น
ทำไมถึงต้องขายบน Amazon?
เพิ่มโอกาสในเข้าถึงลูกค้าหลายร้อยล้านคนทั่วโลกบนเว็บไซต์ Amazon รวมทั้งการเริ่มต้นกระบวนการขายบน Amazon สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่คุณจะตั้งเว็บไซต์ธุรกิจหรือร้านค้าจริง
คุณสามารถลงรายการสินค้าที่จะขายในทุกหมวดหมู่ Amazon ได้หรือไม่?
ผู้ขายอาจจะต้องมีการอนุมัติล่วงหน้าสำหรับรายการสินค้าบางหมวดหมู่
สินค้าหมวดหมู่ใดที่ไม่สามารถลงขายใน Amazon.com?
สินค้าบางหมวดหมู่นั้นอาจจะถูกจำกัดห้ามค้าขายบน Amazon ตามข้อกฎหมายหรือข้อจำกัด (ตัวอย่างเช่น ยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์เท่านั้น) หรือนโยบายของ Amazon (ตัวอย่างเช่น ภาพถ่ายสถานที่เกิดเหตุอาชญากรรม) สำหรับข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูที่นี่
คุณจะเปิดบัญชีผู้ขาย Amazon ใหม่ได้อย่างไร?
ลงทะเบียนแผนการขายแบบมืออาชีพหรือแบบฐานะบุคคลทั่วไป คุณสามารถใช้บัญชีลูกค้า Amazon ของคุณหรือคุณสามารถสร้างบัญชีใหม่ด้วยที่อยู่อีเมลธุรกิจของคุณ
ก่อนที่จะเริ่มให้แน่ใจว่าได้เตรียมข้อมูลต่อไปนี้ไว้พร้อม:
• ชื่อธุรกิจ ที่อยู่ และข้อมูลติดต่อของคุณ
• บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตที่เรียกเก็บเงินจากต่างประเทศพร้อมที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงินที่ถูกต้อง
• หมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ในระหว่างกระบวนการลงทะเบียน
• เอกสารยืนยันตัวตนผู้ขาย เช่น บัตรประชาชน และ bank statement
• เอกสารยืนยันตัวตนอื่น ๆ ในกรณีที่ Amazon ขอเพิ่มเติม
ก่อนที่จะเริ่มให้แน่ใจว่าได้เตรียมข้อมูลต่อไปนี้ไว้พร้อม:
• ชื่อธุรกิจ ที่อยู่ และข้อมูลติดต่อของคุณ
• บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตที่เรียกเก็บเงินจากต่างประเทศพร้อมที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงินที่ถูกต้อง
• หมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ในระหว่างกระบวนการลงทะเบียน
• เอกสารยืนยันตัวตนผู้ขาย เช่น บัตรประชาชน และ bank statement
• เอกสารยืนยันตัวตนอื่น ๆ ในกรณีที่ Amazon ขอเพิ่มเติม
คุณสามารถเปลี่ยนแผนการขายได้ไหม?
ผู้ขายสามารถเปลี่ยนแผนการขายของคุณได้ หากไม่ต้องการถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมรายเดือนของแผนการขายแบบมืออาชีพ คุณสามารถเปลี่ยนบัญชีของคุณจากแผนการขายแบบมืออาชีพ (Professional Selling Plan) เป็นแผนการขายในฐานะบุคคลทั่วไป (Individual Selling Plan) โดยการไปที่ Seller Central คลิก Setting ที่มุมบนขวา เลือก Account Info คลิกที่ Manage ตรงกล่อง Your Services และสามารถเลือก Upgrade หรือ Downgrade บัญชี การเปลี่ยนแปลงแผนการขายนี้จะส่งผลในยอดบิลครั้งต่อไป
หากคุณลดแผนการขายเป็นในฐานะบุคคลทั่วไป บัญชีของคุณจะยังคงเปิดอยู่ และคุณสามารถลงรายการสินค้าใน Amazon ในฐานะผู้ขายรายบุคคล แต่คุณจะไม่สามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ของแผนการขายแบบมืออาชีพ อาทิเช่น การอัปโหลดรายการสินค้าจำนวนมาก รายงานคำสั่งซื้อ อัตราการจัดส่งที่กำหนดโดยผู้ขาย และข้อเสนอพิเศษในหน้า Product Detail Page
หากคุณลดแผนการขายเป็นในฐานะบุคคลทั่วไป บัญชีของคุณจะยังคงเปิดอยู่ และคุณสามารถลงรายการสินค้าใน Amazon ในฐานะผู้ขายรายบุคคล แต่คุณจะไม่สามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ของแผนการขายแบบมืออาชีพ อาทิเช่น การอัปโหลดรายการสินค้าจำนวนมาก รายงานคำสั่งซื้อ อัตราการจัดส่งที่กำหนดโดยผู้ขาย และข้อเสนอพิเศษในหน้า Product Detail Page
คุณจะปิดบัญชีผู้ขาย Amazon ของคุณได้อย่างไร?
หากผู้ขายต้องการปิดบัญชี Amazon ของคุณอย่างถาวร คุณสามารถทำเรื่องขอปิดบัญชีใน Seller Central ก่อนที่คุณจะปิดบัญชีของคุณอย่างถาวรอย่าลืมยกเลิกและลบรายการสินค้าของคุณและแก้ไขธุรกรรมทั้งหมดให้เรียบร้อย โดยที่สามารถใช้ Listing Status Feature ของเราเพื่อระงับรายการสินค้าของคุณหรือคุณสามารถลบออกทั้งหมด (หากไม่ต้องการเก็บไว้ใช้ในอนาคต)
คุณจะขายบน Amazon ในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดาและเม็กซิโกได้อย่างไร?
เมื่อผู้ขายลงทะเบียนแผนการขายแบบมืออาชีพ คุณสามารถเริ่มขายในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิกันของเราผ่านบัญชีรวมทวีปอเมริกาเหนือ (North America Unified Account) โดยที่จะช่วยให้คุณแบ่งปันข้อมูลรายการสินค้าได้ง่ายขึ้นและจัดการสินค้าคงคลังของคุณทั่วทั้งสามประเทศ สำหรับค่าคอมมิชชั่นต่อ 1 หน่วยรายการสินค้า ผู้ขายจะชำระค่าธรรมเนียมนั้นตามประเทศที่สินค้าขายออก ผู้ขายแผนการขายแบบมืออาชีพจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการสมัครสมาชิกรายเดือนเพียงแค่ 1 ครั้งสำหรับการขายในอเมริกาเหนือทั้งสามประเทศ
หากคุณกำลังขายใน Amazon ประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดาหรือเม็กซิโก คุณสามารถใช้บัญชีธนาคารที่มีอยู่เพื่อรับเงินในสกุลเงินท้องถิ่นของคุณด้วย Amazon Currency Converter for Sellers (ACCS) หากคุณเป็นผู้ขายรายใหม่ คุณสามารถรับเงินโดยตรงเข้าบัญชีธนาคารท้องถิ่นของคุณเป็นสกุลเงินท้องถิ่นตราบใดที่คุณมีบัญชีธนาคาร (บัญชีเสมือน) ในประเทศที่สนับสนุนโดย Amazon
หากคุณกำลังขายใน Amazon ประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดาหรือเม็กซิโก คุณสามารถใช้บัญชีธนาคารที่มีอยู่เพื่อรับเงินในสกุลเงินท้องถิ่นของคุณด้วย Amazon Currency Converter for Sellers (ACCS) หากคุณเป็นผู้ขายรายใหม่ คุณสามารถรับเงินโดยตรงเข้าบัญชีธนาคารท้องถิ่นของคุณเป็นสกุลเงินท้องถิ่นตราบใดที่คุณมีบัญชีธนาคาร (บัญชีเสมือน) ในประเทศที่สนับสนุนโดย Amazon
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายบน Amazon
ค่าใช้จ่ายโดยรวมในการขายบน Amazon นั้นเท่าไหร่?
การสมัครบัญชีบน Amazon แผนการขายแบบบุคคลทั่วไปมีค่าใช้จ่าย $ 0.99 ต่อหน่วยสินค้าที่ขาย ส่วนแผนการขายแบบมืออาชีพมีค่าใช้จ่าย $ 39.99 ต่อเดือนไม่ว่าคุณจะขายกี่หน่วยก็ตาม
หากคุณวางแผนที่จะขายน้อยกว่า 40 รายการต่อเดือน แแผนการขายในฐานะบุคคลทั่วไปอาจดีที่สุดสำหรับคุณ
นอกจากค่าใช้จ่ายแผนการขายและค่าคอมมิชชั่นแล้วอาจมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับรูปแบบการจัดส่งและการใช้บริการเสริมอื่น ๆ เพื่อเพิ่มยอดขาย เช่น การโฆษณาใน Amazon
หากคุณวางแผนที่จะขายน้อยกว่า 40 รายการต่อเดือน แแผนการขายในฐานะบุคคลทั่วไปอาจดีที่สุดสำหรับคุณ
นอกจากค่าใช้จ่ายแผนการขายและค่าคอมมิชชั่นแล้วอาจมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับรูปแบบการจัดส่งและการใช้บริการเสริมอื่น ๆ เพื่อเพิ่มยอดขาย เช่น การโฆษณาใน Amazon
ข้อแตกต่างระหว่างแผนการขายแบบบุคคลทั่วไปและแผนการขายแบบมืออาชีพ?
ผู้ขายสามารถขายบน Amazon ได้โดยลงทะเบียนแผนการขายแบบบุคคลทั่วไปหรือแผนการขายแบบมืออาชีพ ทั้งสองแผนการขายนั้นมีค่าใช้จ่ายรายเดือน และฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่แตกต่างกันออกไป
คุณจะถูกเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมแผนการขายรายเดือนเมื่อใด?
ค่าธรรมเนียมรายเดือนใช้กับบัญชีแผนการขายแบบมืออาชีพเท่านั้น และผู้ขายจะถูกเก็บค่าธรรมเนียมขึ้นทันทีที่คุณเสร็จสิ้นกระบวนการลงทะเบียน ค่าธรรมเนียมรายเดือนแรกของคุณจะถูกเรียกเก็บเงินในเวลานั้นเว้นแต่ว่าคุณกำลังใช้โปรโมชั่นส่วนลดพิเศษอื่น ๆ
คุณจะรับเงินรายได้จาก Amazon ได้อย่างไร?
Amazon จะโอนรายได้จากการขายสินค้าเข้าบัญชีเงินฝากของผู้ขายตามรอบการสั่งจ่าย และจะแจ้งให้ทราบเมื่อทำรายการโอนสำเร็จ
เมื่อบัญชีผู้ขายของคุณมียอดคงเหลือเป็นบวก Amazon จะส่งเงินไปยังบัญชีธนาคารของคุณโดยใช้ Automated Clearing House (ACH) หรือการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจใช้เวลาถึงห้าวันทำการก่อนที่เงินจะปรากฏในบัญชีธนาคารของคุณหลังจากที่มีการชำระเงินจากลูกค้าใน Amazon
ก่อนที่ Amazon จะจ่ายเงินให้คุณ คุณต้องระบุบัญชีธนาคารที่ถูกต้องเป็นวิธีการฝากเงินในการตั้งค่าบัญชีผู้ขายของคุณ เราไม่สามารถชำระเงินด้วยบัตรเครดิตหรือระบบชำระเงินออนไลน์ เช่น PayPal
เมื่อบัญชีผู้ขายของคุณมียอดคงเหลือเป็นบวก Amazon จะส่งเงินไปยังบัญชีธนาคารของคุณโดยใช้ Automated Clearing House (ACH) หรือการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจใช้เวลาถึงห้าวันทำการก่อนที่เงินจะปรากฏในบัญชีธนาคารของคุณหลังจากที่มีการชำระเงินจากลูกค้าใน Amazon
ก่อนที่ Amazon จะจ่ายเงินให้คุณ คุณต้องระบุบัญชีธนาคารที่ถูกต้องเป็นวิธีการฝากเงินในการตั้งค่าบัญชีผู้ขายของคุณ เราไม่สามารถชำระเงินด้วยบัตรเครดิตหรือระบบชำระเงินออนไลน์ เช่น PayPal
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการขายของออนไลน์ในAmazon
คุณจะจัดการบัญชีการขาย Amazon ได้อย่างไร?
ผู้ขายสามารถใช้เว็บไซต์ Seller Central เพื่อจัดการธุรกิจ Amazon ทั้งหมดของคุณ Seller Central เป็นเว็บไซต์ที่คุณจัดการบัญชีการขายของคุณเพิ่มข้อมูรายการสินค้า ทำการอัพเดทสินค้าคงคลัง จัดการคำสั่งซื้อและการชำระเงิน
คุณจะเพิ่มข้อมูลสินค้าคงคลังได้อย่างไร?
คุณมีสี่ตัวเลือกในการเพิ่มข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณ:
• ใช้ปุ่ม Sell on Amazon บนหน้าสินค้าของ Amazon
• ใช้ฟีเจอร์ Add a Product ใน Seller Central เพื่อเพิ่มรายการสินค้าใหม่ทีละรายการ
• ใช้ไฟล์ Excel สินค้าคงคลัง เพื่อเพิ่มรายการสินค้าหลายรายการพร้อมกัน
• ใช้ Amazon Marketplace Web Service เพื่ออัปโหลดข้อมูลสินค้าจำนวนมาก รวมทั้งรายงาน
• ใช้ปุ่ม Sell on Amazon บนหน้าสินค้าของ Amazon
• ใช้ฟีเจอร์ Add a Product ใน Seller Central เพื่อเพิ่มรายการสินค้าใหม่ทีละรายการ
• ใช้ไฟล์ Excel สินค้าคงคลัง เพื่อเพิ่มรายการสินค้าหลายรายการพร้อมกัน
• ใช้ Amazon Marketplace Web Service เพื่ออัปโหลดข้อมูลสินค้าจำนวนมาก รวมทั้งรายงาน
คุณจะรู้ได้อย่างไรว่ามีการซื้อ-ขายสินค้าเกิดขึ้น?
Amazon จะแจ้งให้คุณทราบทางอีเมลหรือข้อความเมื่อคุณได้รับคำสั่งซื้อ ผู้ขายสามารถเลือกวิธีการแจ้งเตือนเพิ่มเติมได้ในการตั้งค่าบัญชีของคุณ
ค่าใช้จ่ายในการจัดส่งและกระจายสินค้าบน Amazon มีราคาเท่าไหร่?
ค่าจัดส่งของคุณขึ้นอยู่กับว่าคุณวางแผนที่จะจัดส่งสินค้าด้วยตนเองหรือใช้ Fulfillment by Amazon (FBA) เพื่อจัดการโลจิสติกส์ของคุณ และเสนอการจัดส่งสำหรับสินค้าของคุณโดยเฉพาะ
การจัดส่งและกระจายสินค้า Fulfillment by Amazon คืออะไร?
ด้วย Fulfillment by Amazon (FBA) คุณสามารถจัดเก็บสินค้าของคุณในคลังสินค้าของ Amazon โดยที่เราจะเลือกสินค้า บรรจุหีบห่อ จัดส่ง และดูแลเรื่องการบริการลูกค้า รวมทั้งการคืนสินค้าทั้งหมด
Buy Box คืออะไร?
Buy Box เป็นที่ในหน้ารายละเอียดสินค้าที่ลูกค้าเริ่มต้นกระบวนการซื้อ โดยเพิ่มรายการสินค้าลงในตะกร้าสินค้าของพวกเขา ฟีเจอร์สำคัญของ Amazon คือสินค้าเดียวกันสามารถมีข้อเสนอขายจากผู้ขายหลายราย หากผู้ขายมากกว่าหนึ่งรายเสนอสินค้าเดียวกันในสภาพใหม่ พวกเขาสามารถแข่งขันเพื่อเสนอ Buy Box สำหรับสินค้านั้น
ในการแข่งขันระหว่างผู้ขายเพื่อให้ได้รับ Buy Box คุณจะต้องมีบัญชีแผนการขายแบบมืออาชีพและแสดงให้เห็นถึงประสบการณ์การเป็นผู้ขายที่ยอดเยี่ยมสำหรับลูกค้า Amazon ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพการขายเพื่อพิจารณาคุณสมบัติได้รับ Buy Box รายชื่อผู้มีสิทธิ์ที่ไม่ได้รับข้อเสนอ Buy Box จะยังมีสิทธิ์ได้รับการจัดตำแหน่งในช่อง "ตัวเลือกซื้อเพิ่มเติม" โดยที่ Amazon จะไม่รับประกันตำแหน่งใด ๆ
ในการแข่งขันระหว่างผู้ขายเพื่อให้ได้รับ Buy Box คุณจะต้องมีบัญชีแผนการขายแบบมืออาชีพและแสดงให้เห็นถึงประสบการณ์การเป็นผู้ขายที่ยอดเยี่ยมสำหรับลูกค้า Amazon ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพการขายเพื่อพิจารณาคุณสมบัติได้รับ Buy Box รายชื่อผู้มีสิทธิ์ที่ไม่ได้รับข้อเสนอ Buy Box จะยังมีสิทธิ์ได้รับการจัดตำแหน่งในช่อง "ตัวเลือกซื้อเพิ่มเติม" โดยที่ Amazon จะไม่รับประกันตำแหน่งใด ๆ
คุณสามารถเสนอบริการห่อของขวัญและส่งข้อความให้กับลูกค้าใน Amazon.com ได้หรือไม่?
แน่นอนที่สุด! บริการส่งข้อความของขวัญของเราช่วยให้ลูกค้าสามารถเขียนคำอวยพรสำหรับสินค้าของลูกค้า และบริการห่อของขวัญของเราช่วยให้พวกเขาเลือกและชำระเงินห่อของขวัญสำหรับแต่ละรายการในการสั่งซื้อของพวกเขา
คุณจะขายสินค้าในAmazon อื่น ๆ ในต่างประเทศ เช่น amazon.de และ amazon.co.jp ได้อย่างไร?
การขายใน Amazon ประเทศอื่น ๆ นั้นคล้ายคลึงกับการขายในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อคุณตั้งค่าบัญชีแผนการขายแบบมืออาชีพในประเทศสหรัฐอเมริกา คุณจะมีตัวเลือกในการขายรายการสินค้าในอเมริกาเหนือ (แคนาดาและเม็กซิโก), ยุโรป, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลียและที่อื่น ๆ โดยทันที
เริ่มต้นขายสินค้าออนไลน์
ใน Amazon วันนี้!
นำเสนอสินค้าของคุณให้กับลูกค้านับล้านที่ค้นหา Amazon.com ในทุก ๆ วัน